เฟิร์สไดร์ฟ BYD SEAL โอเชียน ซีรีส์ ซีดาน

เฟิร์สไดร์ฟ BYD SEAL โอเชียน ซีรีส์ ซีดาน

รีวิวรถยนต์ใหม่

เตมีย์ ลิ้มตระกูล

กรุงเทพฯ 25 กันยายน 2566

-BYD SEAL พรีเมี่ยมสปอร์ตซีดาน พิสูจน์ความเป็นนวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้า Flagship model ครั้งแรกกับทริปสื่อมวลชนทดลองขับ สู่เขาใหญ่ โดย เรเว่ ออโตโมทีฟ

เรเว่ ออโตโมทีฟ นำเราและคณะสื่อมวลชนสายรถยนต์ชั้นนำกว่า 120 ชีวิต มาร่วมกิจกรรมทดลองขับรถยนต์ BYD SEAL จำนวน 3 รุ่นย่อย รวม 30 คัน มุ่งหน้าสู่เขาใหญ่  เพื่อสัมผัสประสบการณ์การขับขี่นวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้า 100% อย่างบีวายดี ซีล โดยกิจกรรมจัดขึ้นบนเส้นทางไปกลับกรุงเทพฯ – เขาใหญ่ – กรุงเทพฯ แบบ one day trip ภายใต้เส้นทางการขับขี่จริง ครอบคลุมระยะทางกว่า 400 กิโลเมตร พร้อมท้าพิสูจน์นวัตกรรมหลายด้านทั้งสมรรถนะ ระยะทางขับขี่ และอุปกรณ์ที่ติดตั้งมาอย่างครบครัน

นายประธานวงศ์ พรประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และคุณประธานพร พรประภา รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เรเว่ ออโตโมทีฟ จำกัด พร้อมด้วยทีมผู้บริหารให้เกียรติร่วมต้อนรับสื่อมวลชน รวมถึงบรรยายข้อมูลผลิตภัณฑ์ โดยนายประธานวงศ์  กล่าวว่า “กิจกรรมทดสอบรถยนต์สื่อในวันนี้เป็นอีกหนึ่งรุ่น ที่ทาง เรเว่ ออโตโมทีฟ มั่นใจว่าจะเป็นรุ่นที่สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับบีวายดีอีกหนึ่งรุ่น โดยบีวายดี ซีลเป็นรถไฟฟ้าพรีเมี่ยมสปอร์ตซีดาน เรียกได้ว่าเป็น Flagship model เลยทีเดียวครับ และเป็นรถกลุ่มที่ออกมาตอบโจทย์ลูกค้าที่เป็นผู้ใหญ่มากขึ้น ดูสปอร์ต หรูหรา 

BYD SEAL นับว่าเป็นรุ่นหนึ่งที่แฟนๆหลายๆท่านรอคอย การทดลองขับในวันนี้จัดขึ้นภายใต้สภาวะการขับขี่จริง เราต้องการให้ทุกท่านที่ได้ทดสอบเห็นว่า บีวายดี ซีล เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่มีความสะดวกสบาย หรูหรา กว้างขวาง สามารถพาไปได้ทุกจุดหมายในทุกสภาพการขับขี่  ไม่ใช่แค่เพียงเพื่อการใช้งานในเมือง นอกจากนั้น ลองขับแบบระยะทางไกลๆ จะสัมผัสถึงความสบายที่แท้จริง ทุกท่านจะรู้สึกผ่อนคลาย ตลอดเวลาที่ขับขี่และร่วมเดินทางรวมถึงได้ทดสอบสมรรถนะรวมถึงฟังก์ชั่นการใช้งานต่างๆ รวมถึงเทคโนโลยีความปลอดภัยที่ให้มาครบ” 

การเดินทางอันน่าจดจำได้เริ่มต้นขึ้นที่ ดาวิน คาเฟ่ กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นจุดลงทะเบียนพร้อมกับอบรมบรรยายข้อมูลผลิตภัณฑ์ จากนั้น สื่อมวลชนได้พบกับรถยนต์ไฟฟ้าที่ออกแบบมาด้วยมาให้   โฉบเฉี่ยว ล้ำสมัยอย่าง บีวายดี ซีล (BYD SEAL) จำนวน 30 คัน แบ่งเป็น 3 รุ่นย่อย (Dynamic, Premium, AWD Performance) ผู้ขับขี่สามารถปลดล็อคได้อย่างง่ายดายผ่านคีย์เลส มือเปิดประตูแบบซ่อนจะเลื่อนออกมาให้ดึงประตูเปิด เมื่อเปิดประตูฝั่งคนขับสิ่งแรกที่จะได้สัมผัสคือ Welcome seat ที่เบาะจะถอดออกอัตโนมัติเพื่อให้ผู้ขับขี่ได้เข้าและออกได้อย่างคล่องตัว ห้องโดยสารวัสดุหนังสีดำในทุกรุ่น ออกแบบปราณีตในทุกรายละเอียด โดยสีภายนอกมี 4 สี ให้เลือกแยกตามรุ่นดังนี้ 

DYNAMIC                   = ขาว, ดำ 

PREMIUM                   = ขาว, ดำ, เทา

AWD PERFOMANCE  = ขาว, ดำ, เทา, ฟ้า

ระหว่างทางมุ่งหน้าสู่เขาใหญ่ 110 กม. จุดแรกที่นัดหมายร้านกาแฟ Barnery / The Harmony Library  สื่อมวลชนจะได้พักเบรกทานรับเครื่องดื่มของวาง พร้อมทั้งได้มีการสลับรุ่นรถกัน เพื่อที่จะได้ทดสอบถึงความแตกต่างกันในแต่ละรุ่นย่อยบางท่านอาจจะแวะเพื่อถ่ายภาพและวีดีโอเก็บเรื่องราวต่างๆ ของรถรุ่นนั้นๆ ที่ได้ทดสอบมา เพื่อถ่ายทอดประสบการณ์การทดสอบในครั้งนี้

จากจุดแรกเราได้นัดหมายเพื่อเดินทางต่ออีก 95 กม. เพื่อไปรับประทานอาหารกลางวัน สื่อมวลชนและผู้ร่วมเดินทางได้แวะลิ้มลองอาหารรสเด็ดจาก ร้านครัวกำปั่น ร้านที่ยังคงรสชาติความอร่อยมากกว่า 9 ปี หลังจากรับประทานอาหารกลางวันแล้ว เราเปลี่ยนอารมณ์การขับขี่จากการขับระยะทางยาวๆ มาทดสอบสมรรถนะการขับขี่บนสนาม 8 สปีด ห่างออกไป 15 กม. เพื่อทดสอบ        ฟังก์ชั่นการขับขี่อาทิเช่น เปลี่ยนช่องจราจรกะทันหันบนความเร็ว 

และวงเวียนเพื่อทดสอบการทรงตัวด้วยกับระบบกันสะเทือนหน้า ปีกนกคู่ (Double Wishbone) ระบบกันสะเทือนหลัง มัลติลิงค์ (Five-Link) ผสานการทำงานกับโช๊คอัพปรับอัตโนมัติตามความเร็ว แบบ Frequency Selective Damping (FSD) ควบคุมปริมาณน้ำมันไฮดรอลิกที่ฉีดเข้าไปในกระบอกสูบโช้คอัพผ่านวาล์ว FSD จึงปรับความนุ่มนวลและความแข็งของโช้คอัพได้โดยอัตโนมัติ (ในรุ่น AWD PERFOMANCE ) การปรับเปลี่ยนแบบแปรผันอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยโครงสร้างตัวถัง e-Platform 3.0 ที่ออกแบบมาเพื่อรถไฟฟ้าบีวายดีโดยเฉพาะ รองรับทุกสภาพถนนในการขับขี่ ขับขี่ที่มั่นใจมากยิ่งขึ้น รวมถึงได้ทดสอบฟังก์ชั่นอื่นๆ ที่ให้มาแบบฟูลออฟชั่น

ในช่วงเดินทางกลับจากเขาใหญ่-กรุงเทพฯ สื่อมวลชนสามารถลองสัมผัสการขับขี่แบบยาวๆอีกครั้งบนสภาพถนนจริง เพื่อได้สัมผัสทุกระบบ ทุกฟังก์ชั่นการใช้งานตอบโจทย์ผู้ขับขี่และผู้โดยสารอย่างแท้จริง ด้วยระยะทางรวมถึงกว่า 400 กม. ในเวลา 1 วัน ความรู้สึกของผู้ขับขี่และผู้โดยสารจะรู้สึกผ่อนคลายตลอดการทดสอบครั้งนี้

บทสรุปหลังสัมผัสแรก บีวายดี ซีล

บีวายดี ซีล ทั้ง 3 ที่ เรเว่ ออโตโมทีฟจัดมาให้พวกเราได้ทดลองขับครบทั้ง 3 รุ่น DYNAMIC, PREMIUM และรุ่นท๊อป AWD PERFOMANCE โดยภาพรวมของทั้ง 3 รุ่น โครงสร้างหน้าตาภายนอกซึ่งเป็น e-platform 3.0 แทบแยกไม่ออกถ้าไม่สังเกตุที่ท้ายรถในรุ่นท๊อป AWD PERFOMANCE มีความต่างจากกันทั้ง 3 รุ่น คือ จะมีตัวอักษร AWD และตัวเลข 3.8S แปะอยู่ที่ฝากระโปรงท้ายเป็นการประกาศให้เพื่อนรวมทางทราบว่า เป็นตัวขับเคลื่อน 4 ล้อ มอเตอร์ 2 ตัว อันตราเร่ง 0-100 ก.ม. ใช้เวลาเพียง 3.8 วินาที และมีขนาดล้อและยางขนาด 19 นิ้ว เช่น เดียวกับตัวกลาง PREMIUM ส่วนรุ่นเริ่มต้น DYNAMIC ล้อและยางจะมีขนาด 18 นิ้ว มิติตัวถังกว้าง 1,875 มม.ยาว 4,800 มม.สูง 1,460 มม.ขนาดใกล้เคียงซีดาน ดี เซกเมนต์ จากฝากญี่ปุ่น แต่ใหญ่กว่า Tesla Model 3 เล็กน้อย ระบบกันสะเทือนหน้าแบบปีกนกคู่ Double Wishbone ระบบกันสะเทือนแบบมัลติลิงค์

รายละเอียดออฟชั่นภายในมีแตกแยกย่อยสิ่งที่รุ่นเริ่มต้น DYNAMIC ไม่มี คือระบบแสดงผลบนกระจกหน้า (W-HUD) กระจกมองข้างปรับองศาอัตโนมัติเม่ื่อถอยหลัง ระบบบันทึกตําแหน่งกระจกมองข้าง และวัสดุที่ด้อยกว่า 2 รุ่น บนคือพวงมาลัยและเบาะนั่ง หุ้มหนังสังเคราะห์ ในขณะพวงมาลัยและเบาะนั่งหุ้มหนังแท้ รวมถึงมีระบบจดจําตําแหน่งที่นั่งเบาะคนขับเบาะนั่งคนขับเลื่อนอัตโนมัติเมื่อสตาร์ทและดับรถยนต์จะอยู่ในรุ่น PREMIUM และ AWD PERFOMANCE ส่วนฟีเจอร์หรือส่วนควบส่วนช่วยในเรื่องของความปลอดภัยสมัยใหม่ทุกระบบมีมาให้ครบแบบไม่สามารถไล่เรียงหมดบนเนื้อที่จำกันตรงนี้

ความแตกต่างอย่างชัดเจนจะเป็นเรื่องของสมรรถนะและพละกำลัง 

รุ่น DYNAMIC  ใช้มอเตอร์ไฟฟ้า Permanent Magnet Synchronous Motor ขนาด 150 กิโลวัตต์ ขับเคลื่อนลงล้อคู่หลังให้แรงบิดสูงสุด 310 นิวตัน-เมตร สามารถวิ่งได้ระยะทางสูงสุด 510 กิโลเมตร (NEDC Combined Cycle) ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง และในรุ่น DYNAMIC ให้ระบบชาร์จ DC แบบ CCS 2(110kW) ในขณะที่ รุ่น PREMIUM และ AWD PERFOMANCE ให้ระบบชาร์จ DC แบบ CCS 2(150kW)

รุ่นPREMIUM ใช้มอเตอร์ไฟฟ้า Permanent Magnet Synchronous Motor เช่นกันแต่ขยับขนาดขึ้นเป็น 230 กิโลวัตต์ ขับเคลื่อนลงล้อคู่หลังให้แรงบิดสูงสุด 360 นิวตัน-เมตร สามารถวิ่งได้ระยะทางสูงสุด 650 กิโลเมตร (NEDC Combined Cycle) ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง 

ส่วนตัวท๊อป AWD PERFOMANCE ใช้มอเตอร์ไฟฟ้า Permanent Magnet Synchronous Motor ขนาด 230 กิโลวัตต์ ขับเคลื่อนลงล้อคู่หลัง ให้แรงบิดสูงสุด 360 นิวตัน-เมตร และเพิ่ม มอเตอร์ไฟฟ้า Asynchronous Motor ขนาด 160 กิโลวัตต์ ขับเคลื่อนลงล้อคู่หน้า ให้แรงบิดสูงสุด 310 นิวตัน-เมตร พร้อมระบบควบคุมแรงบิดอัจฉรยะ (iTAC)  ดังนั้นตัวท๊อป AWD PERFOMANCE เมื่อนำกำลังขับมอเตอร์คู่หน้าและคู่หลังรวมกันส่งผลให้มีกำลังขับรวม 390 กิโลวัตต์ (การเปลี่ยนหน่วยกำลังวัตต์เป็นแรงมาให้นำ กำลังวัตต์x1.341=แรงม้า) ให้แรงบิดรวมสูงสุด 670 นิวตัน-เมตร สามารถวิ่งได้ระยะทางสูงสุด 580 กิโลเมตร (NEDC Combined Cycle) ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ทั้ง 3 รุ่นมีระบบการดึงพลังงานจากระบบเบรกกลับมาใช้ใหม่ ( Regenerative Braking )

สำหรับเรื่องของฟิลลิ่งที่ได้รับหลังขับครบทั้ง 3 รุ่น ทั้ง 3 คัน บอกได้ว่าประทับใจในการทำรถของ BYD ที่ให้มาแบบไม่กั๊ก ทั้งสมรรถนะและความตั้งใจในรายละเอียดเรื่องของอารมณ์ สำหรับเราแล้ว 3 รุ่นนี้ คันไหนก็ได้ในเรื่องของความคุ้มค่าคุ้มราคาเพราะอุปกรณ์ในรุ่นที่ให้มาบางอย่างบางทีก็ไม่จำเป็นสำหรับบางคน แต่ความคิดของคนบางคน อุปกรณ์บางอย่างมีไว้ไม่ได้ใช้ดีกว่าเวลาจะใช้แล้วมันไม่มี อย่างเช่นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ จากชุดมอเตอร์ 2 ชุด ในรุ่น AWD PERFOMANCE 

ส่วนกับ 2 รุ่น เริ่มต้น DYNAMIC ไปจนถังตัวกลาง PREMIUM อุปกรณ์ออฟชั่นต่างกันไม่มาก PREMIUM ให้มาเหลือ ๆ ทั้งระยะทางวิ่งและอุปกรณ์อำนวยความสะดวก แต่กับเริ่มต้น DYNAMIC ก็ไม่รู้สึกว่าขาดอะไรไป ถึงแม้จะวิ่งได้ระยะทางน้อยว่าแต่ก็ไม่ได้ห่างกันจะรู้สึกน้อยใจ ( ก็ให้มาตั้ง 510 กิโลเมตร แล้วนะ) แต่กับความรู้สึกหลังขับกลับประทับใจเจ้า รุ่นเริ่มต้น DYNAMIC คันเร่งนุ่มนวลไม่ไวไปจนคนนั่งหงานหน้าบ่น ( อันนี้เป็นเรื่องปกติของคันเร่งไฟฟ้า ) กับ 3 โหมด ประหยัด ปกติ และสปอร์ต เพราะพอขยับไปขับตัวกลาง PREMIUM รู้สึกได้ถึงความกระฉับกระเฉง ของพละกำลังหลังวางเท้าบนคันเร่ง แน่นอนว่าเหนือกว่า DYNAMIC 

แต่สิ่งที่จับอาการแล้วรู้สึกไม่ชอบใจคือช่วงล่างของ PREMIUM ที่ต้องแบกน้ำหนักขนาดแบตเตอรี่ที่ใหญ่และหนักกว่า DYNAMIC ทำให้เวลาขับใช้งานช่วงเข้าโค้งเปลี่ยนเลนมีอาการโยนตัวของตัวถังมาถึงห้องโดยสารจากแรงเหวี่ยงและการแถมจากแรงเฉื่อย เดาว่าช่วงล่างของ DYNAMIC และตัวกลาง PREMIUM อาจใช้พาร์ทนัมเบอร์เดียวกันแต่ PREMIUM ดันมีน้ำหนักมากกว่า? ส่วนตัวท๊อป AWD PERFOMANCE เฟิร์มทั้งอารมณ์และความแรง แบบเหลือดีกว่าขาด เหลืออย่างเดียวที่ไม่รู้เกี่ยวกับ BYD SEAL โอเชียน ซีรีส์ ซีดาน 3 คันนี้คือราคาค่าตัว ก็ได้แต่หวังว่าราคาจะมาดีจนสามารถไล่เบียด Tesla Model 3 ที่ฝ่ายการตลาดวาดไว้ ส่วนเรื่องแพลนอย่างเป็นทางการนั้น บีวายดี ซีล พร้อมเปิดตัวต่อสาธารณชนและให้ทดลองขับกันในวันที่ 28 กันยายนนี้ ที่สื่อสารมวลชนทุกแพลตฟอร์มและที่โชว์รูมบีวายดีกว่า 65 ทั่วประเทศ โดยสามารถจองเป็นเจ้าของโดยมีรถส่งมอบให้กับลูกค้าได้ทันที ส่วนด้านล่างนี้คือข้อเสนอพิเศษจาก BYD ในช่วงเปิดตัว มูลค่ารวม 230,000 บาท

1. ดอกเบี้ยพิเศษ 1.88% ดาวน์ 25% ผ่อนนาน 48 เดือน*
2. ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พรบ. ระยะเวลา 1 ปี
3. บริการบํารุงรักษาค่าแรงค่าอะไหล่8ปี หรือ 160,000 กม.* 

4. รับประกันตัวรถ (Waranty) 8 ปี หรือ 160,000 กม.*
5. รับประกันแบตเตอรี่ 8 ปี หรือ  160,000 กม.*
6. บริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง 8ปี เต็ม*
7. โฮมชาร์จเจอร์ยี่ห้อ ABB พร้อมการติดตั้ง *
8. สายต่อ พวงอุปกรณ์ไฟฟ้า หรือ VTOL
9. สายชาร์จเคลื่อนที่ AC Portable Charger
10. ค่าจดทะเบียนรถ* 11.ผ้ายางเข้ารูป กรอบป้ายทะเบียน ฟิล์มหน้าจอ 

BYD SEAL TEST DRIVE GALLERY