ทดลองขับ ALL NEW SUZUKI FRONX เวียงจันทร์-วังเวียง สปป.ลาว

หลังจาก ALL NEW SUZUKI FRONX เปิดตัวเมื่อไปเมืื่อวันที่ 25 กันยายน ที่ผ่านมา ซูซูกิก็ไม่รอช้าจัดทริปทดสอบเส้นทางเวียงจันทร์ไปวังเวียงที่ประเทศลาว  โดยใช้ระยะทางวิ่งกว่า 100 กิโล 

สำหรับเส้นทางที่ได้ทดสอบจะเป็นทั้งทางเรียบและขรุขระทำให้เรารู้สึกถึงช่วงล่างที่  ALL NEW SUZUKI FRONX  จัดมาได้ดี นี้เป็นรถขนาด B-SUV เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตรที่ได้ทำงานร่วมกับ SMART HYBRID โดยมีเฉพาะสำหรับซูซูกิเท่านั้น สำหรับ ALL NEW SUZUKI FRONX  มีมาด้วยกันทั้งหมด 3 รุ่น ดังนี้

GL เบนซิน 1.5 ลิตร 689,000  บาท

GLX Smart Hybrid Vehicle   749,000 บาท

GLX PLUS Smart Hybrid Vehicle 799,000 บาท

สำหรับรุ่นที่เราได้ทดลองขับเป็น GLX PLUS เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ที่เป็น SMART HYBRID สำหรับเครื่องยนต์นี้จะเป็นเครื่องยนต์ใหม่คือเครื่องยนต์ K15C ที่ใส่มาเฉพาะรุ่น GLX และ GLX PLUS โดยเครื่องยนต์จะเป็นเบนซิน 4 สูบมาด้วยแรงม้า 101 แรงม้าแรงบิด 135 นิวตันเมตร เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด สำหรับรุ่น GLX และ GLX PLUS จะมีตัวเทคโนโลยีของ SMART HYBRID และมาพร้อมแบตเตอรี่ลิเทียมไอออน 

ALL NEW SUZUKI FRONX  มีการออกแบบมาให้เป็นสปอร์ตมากยิ่งขึ้นสะท้อนความเป็น B-SUV ที่ทันสมัย โดยกระจังหน้าออกแบบมาให้เป็นแนวสปอร์ต ไฟหน้าและไฟท้ายเป็น LED ไฟหน้าเป็น Daytime Running Light มีรัศมีวงเลี้ยวเพียง 4.8 เมตร  จะช่วยให้การขับขี่และจอดในพื้นที่ที่จำกัดได้ง่ายขึ้น  สำหรับล้อที่ใส่มากับตัวรถมีขนาด 16 นิ้วเท่ากันรุ่น พวงมาลัยเป็นแบบ Multifunction มีความเป็นสปอร์ตและขับได้ง่ายกระชับมือมี Paddle Shift สำหรับควบคุมเกียร์ ( มีเฉพาะรุ่น GLX Plus เท่านั้น ) จอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และแอนดรอยด์ ในส่วนของการเชื่อมต่อสำหรับแอนดรอยด์ยังคงต้องใช้สายในการเชื่อมต่อ  การชาร์จโทรศัพท์เป็นแบบไร้สายสามารถวางแล้วก็ชาร์จได้โดยง่าย ช่องเชื่อมต่อมีแบบยูเอสบี มีแอร์สำหรับผู้โดยสารด้านหลัง  

สำหรับความปลอดภัยที่  ALL NEW SUZUKI FRONX  ที่ใส่มาให้ก็ครบครัน อาทิ ถุงลมนิรภัย SRS มาถึง 6 ตำแหน่ง และระบบเทคโนโลยี SSS ( SUZUKI SAFETY SUPPORT ) ที่มีเฉพาะรุ่น GLX PLUS เพื่อความปลอดภัยในทุกการขับขี่ ได้แก่

  • ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ Dual Sensor Brake Support II (DSBSII)
  • จอแสดงข้อมูล Head-up display (HUD) 
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน Adaptive Cruise Control (ACC) 
  • ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน Lane Keep Assist (LKA) 
  • ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกเลน Lane Departure Warning (LDW) 
  • ระบบช่วยป้องกันรถออกนอกเลน Lane Departure Prevention (LDP) 
  • ระบบเตือนเมื่อรถส่าย Vehicle Sway Warning 
  • ระบบเตือนสิ่งกีดขวางในจุดอับสายตา Blind Spot Monitor (BSM) 
  • ระบบเตือนเมื่อมีรถเคลื่อนผ่านขณะถอยหลัง Rear Cross Traffic Alert (RCTA) 
  • ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ High Beam Assist (HBA) 
  • กล้องมองภาพรอบคัน 360 องศา Surround View Monitor
  • เซนเซอร์ถอยหลังพร้อมสัญญาณเตือน Parking Sensor

ALL NEW SUZUKI FRONX ในรุ่น GL, GLX และ GLX PLUS มาพร้อมหลากหลายเฉดสี ได้แก่ 

  • Pearl Snow White
  • Silky Silver Metallic
  • Metallic Magma Gray
  • Cool Black Metallic
  • Savanna Ivory Metallic

ALL NEW SUZUKI FRONX ยังมีสีพิเศษในรุ่น GLX PLUS แบบ Two-tone อีก 3 สี ได้แก่ 

  • Pearl Snow White / Cool Black Metallic
  • Savanna Ivory Metallic / Cool Black Metallic
  • Ice Grayish Blue Metallic / Cool Black Metallic

ทดลองขับ ALL NEW SUZUKI FRONX 

เริ่มการทดลองขับหรืออาจเรียกว่าเป็นการทดสอบความพร้อมของเราให้เข้ากับความใหม่ของ ALL NEW SUZUKI FRONX เราออกเดินทางจากประตูชัยที่เวียงจันทน์มุ่งตรงสู่วังเวียงโดยใช้เป็นเส้นทางในเมืองประมาณ 30 กิโลและเข้าไปวิ่งที่ทางด่วนออกที่วังเวียงระยะทางในทางด่วนจะอยู่ที่ประมาณ 100 กิโล  เริ่มแรกเป็นผู้โดยสารก่อนโดยรวมดูลักษณะการตกแต่งภายใน หน้าจอสัมผัส 9 นิ้ว มีระบบเชื่อมต่อ Apple CarPlay และแอนดรอยด์ในส่วนของ Apple CarPlay จะสามารถเชื่อมต่อได้เลยแต่แอนดรอยด์จะต้องใช้สายในการเชื่อมต่อ เบาะผู้โดยสารถือว่าใหญ่นั่งสบาย สำหรับผู้โดยสารด้านหลัง มีแอร์และช่อง USB และ Type C สำหรับการชาร์ทโทรศัพท์ นั่งสบายแนวสปอร์ต

ช่วงสลับปรับเปลี่ยนผู้ขับในบริเวIจุดพักรถ เราได้มาขับ  ALL NEW SUZUKI FRONX ด้วยระยะทางประมาณเกือบ 60 กิโลสัมผัสแรกที่รู้สึกที่ได้ขับพวงมาลัยจับกระชับมือมาก ควบคุมง่ายมีความเป็นสปอร์ต  ในช่วงที่ขับใช้ความเร็วอาจจะต้องรอรอบนิดนึง มีความเกาะถนน อันนี้ขอชื่นชมว่าทางซูซูกิจัดช่วงล่างมาได้ดีมาก เมื่อใช้ความเร็วไม่มีเสียงจากด้านนอกเข้ามาในตัวรถ และได้ลองใช้ระบบความปลอดภัยที่จัดใส่มาให้ไม่น้อยหน้ารถยนต์ในเซกเมนต์และราคาที่ใกล้เคียงกัน ส่วนตัวเราชอบระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน Adaptive Cruise Control (ACC) ซึ่งสารภาพเลยว่าใช้งานง่ายมาก เพียงกดปุ่มและเสือกระดับความเร็วตามรถคันหน้าที่เหมาะสมก็ไปได้แบบสบาย ถัดมาคือระบบช่วยป้องกันรถออกนอกเลน Lane Departure Prevention (LDP) บางทีเราอาจลืมตัวออกนอกเลน ระบบของรถจะดึงกลับมาแบบนุ่มนวลไม่กระชากให้ตกใจ

ต่อมาจะเป็นกล้องมองภาพรอบคัน 360 องศาจะทำงาน หลังจากที่เราสตาร์ทรถกล้องจะเปิดให้เราเห็นรอบตัวรถก่อนเพื่อความปลอดภัย โดยรวมที่ขับถือว่า ALL NEW SUZUKI FRONX  ทำออกมาได้ดี ลูกค้าที่ใช้สวิทฟ์อาจจะเทใจขยับรุ่นมาเป็น ALL NEW SUZUKI FRONX  ก็ไม่แปลกเลยเพราะความสนุกในการขับขี่ยังเหมือนเดิม แถมได้ที่เก็บสัมภาระในการเดินทางเพิ่มขึ้นอีก หากอ่านบทความที่ได้เขียนมาและอยากลองสัมผัสและทดลองขับก็ไปได้ที่โชว์รูมซูซูกิ สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณ บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ที่ให้ incarsmagazine ได้เข้าร่วมทริปนี้ สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.suzuki.co.th