หลังจากที่ทางโตโยต้าเปิดตัว TOYOTA HILUX TRAVO ไปเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โตโยต้าก็ไม่รอช้าเหล็กกำลังร้อนได้จัดทริปทดสอบสมรรถนะ บนเส้นทางกรุงเทพ-ฉะเชิงเทรา-พัทยา ระยะรวมกว่า 250 กิโลเมตร

โดยเริ่มออกเดินทางกันที่ TOYOTA ALIVE เพื่อไปสนามทดสอบล้อยางและทดสอบ OFFROAD ที่สวนป่าสนามชัย โดยรถ TOYOTA HILUX TRAVO ที่ใช้ในการทดสอบครั้งนี้ทั้งหมดเป็นรุ่น OVERLAND ถือว่าเป็นตัวท็อปสุด สิ่งแรกที่ได้สัมผัสและถูกใจนั่นคือพวงมาลัยไฟฟ้าที่ทำออกมาได้ดีและช่วงล่างที่มาพร้อมกับตัวไดนามิคข่าว เป็นการเพิ่มความนุ่มนวลและขับขี่ให้สบาย TOYOTA HILUX TRAVO มีการออกแบบมาให้สามารถใช้ได้ทั้งการเดินทางการท่องเที่ยวทำงานบรรทุกสัมภาระของได้เรียกว่าสามารถใช้งานได้ครบถ้วน

TOYOTA HILUX TRAVO Overland 4TREX มาด้วยเครื่องยนต์ดีเซล 2.8 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 204 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 500 นิวตัน-เมตร มีเทคโนโลยีที่ช่วยประหยัดน้ำมัน ระบบ DYNAMIC CLOUD มีการเพิ่มจุดเชื่อมพื้นตัวถัง ให้มีความแข็งแรงของตัวห้องโดยสาร มีการปรับช่วงล่างให้นุ่มนวล หนึบแน่นเกาะถนน และที่สำคัญมีการยางรองแท่นเครื่องเป็นแบบไฮดรอลิค และยางรองตัวถังแบบ Shear Type ลดแรงสั่นสะเทือนเข้าสู่ภายในห้องโดยสาร ในส่วนของพวงมาลัยได้ปรับเปลี่ยนเป็นไฟฟ้า ทำให้ควบคุมการขับขี่ได้ง่ายขึ้น มีการตอบสนองดีและลดการสั่นสะเทือน

ทดลองขับ
เริ่มออกเดินทางกันที่ TOYOTA ALIVE บางนา เริ่มแรกเป็นผู้โดยสาร ได้สำรวจอุปกรณ์ภายใน TOYOTA HILUX TRAVO Overland 4TREX มาด้วยหน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว พร้อมเชื่อมต่อ Apply Carplay และ Android Auto แบบไร้สาย สามารถชาร์จโทรศัพท์ได้แบบ Wireless Charger หน้าจอแสดงข้อมูลผู้ขับขี่ ขนาด 12.3 นิ้ว แบบดิจิทัล TOYOTA HILUX TRAVO Overland 4TREX มาพร้อมระบบเบรกมือไฟฟ้า EPB ( ElectricParkink Brake ) พร้อมระบบหน่วงเบรกอัตโนมัติ ( Auto Brake Hold ) เบาะนั่งสำหรับผู้โดยสารจะเป็นปรับมือแต่สำหรับผู้ขับขี่จะเป็นไฟฟ้า เบาะหนังสบายโอบรับได้ดี เพราะมีการเพิ่มของชั้นเบาะให้นุ่มนวลและแน่น

ช่วงที่ 2 สลับตำแหน่งมาเป็นผู้ขับขี่ อย่างแรกที่ขอบอกความชื่นชอบนั่นคือ พวงมาลัยไฟฟ้าที่ใส่มาทุกในทุกรุ่นของ TOYOTA HILUX TRAVO คือเบา กระชับ ควบคุมง่ายขึ้น การขับขี่บนถนนได้ใช้ระบบ Toyota Safety Senses ที่ใส่ให้มา

All-Speed Dynamic Radar Cruise Control with Curve Speed Reduction and Lane Tracing Assist เป็นระบบที่ควบคุมและปรับลดความเร็วอัตโนมัติ พร้อมช่วยลดความเร็วอัตโนมัติก่อนเข้าโค้ง และยังช่วยควบคุมความรถให้อยู่ในเลนอีกด้วย
หลังจากนั้นได้เข้ามาทดสอบกันที่สนาทดสอบล้อและยางและทดสอบ Off-road ที่สวนป่าสนามชัย เป็นการทดสอบด้วยใช้ระบบ MTS ( Multi-Terrain Select ) เป็นระบบที่ช่วยปรับการขับบี่ให้เหมาะกับสภาพพื้นผิวถนน ปประกอบไปด้วยโหมด Dirt, Sand, Mud, Rock, และ Deep Show อีกทั้งยังมีระบบป้องกันล้อหมุนฟรีแบบแอคทีฟ A-TRC (Active Traction Control) ที่จะช่วยปรับกำลังเครื่องยนต์เพื่อเพิ่มการยึดเกาะและส่งกำลังแรงขับไปยังแต่ละล้อได้อย่างเหมาะสม เพื่อให้สามารถขับไปต่อได้อย่างง่ายดาย

ความประทับใจที่ได้ทดสอบ TOYOTA HILUX TRAVO Overland 4TREX
- พวงมาลัยไฟฟ้าที่ทำออกมาได้ดี ขับง่ายกระชับมือ ควบคุมได้อย่างดี
- ช่วงล่างที่แน่นเกาะถนน แน่นหนึบเกาะถนน

สำหรับราคาของ TOYOTA HILUX TRAVO แบ่งรุ่นย่อยถึง 17 รุ่น ดังนี้
ดับเบิ้ลแค็บ (DOUBLE CAB)
Overland Plus AT
ขับเคลื่อนสี่ล้อ 4TREX ราคา 1,366,000 บาท
ขับเคลื่อนสองล้อ PRERUNNER ราคา 1,176,000 บาท
Overland AT
ขับเคลื่อนสี่ล้อ 4TREX ราคา 1,292,000 บาท

ขับเคลื่อนสองล้อ PRERUNNER ราคา 1,102,000 บาท
2.8 Premium AT
ขับเคลื่อนสองล้อ PRERUNNER ราคา 999,000 บาท
2.8 Premium MT
ขับเคลื่อนสี่ล้อ 4TREX ราคา 1,090,000 บาท
ขับเคลื่อนสองล้อ PRERUNNER ราคา 949,000 บาท
2.8 Smart AT
ขับเคลื่อนสองล้อ PRERUNNER ราคา 945,000 บาท
2.8 Smart MT
ขับเคลื่อนสองล้อ PRERUNNER ราคา 895,000 บาท

สมาร์ทแค็บ (SMART CAB)
2.8 Premium AT
ขับเคลื่อนสี่ล้อ 4TREX ราคา 1,029,000 บาท
ขับเคลื่อนสองล้อ PRERUNNER ราคา 909,000 บาท
2.8 Premium MT
ขับเคลื่อนสี่ล้อ 4TREX ราคา 984,000 บาท
ขับเคลื่อนสองล้อ PRERUNNER ราคา 859,000 บาท
2.8 Smart AT
ขับเคลื่อนสองล้อ PRERUNNER ราคา 839,000 บาท
2.8 Smart MT
ขับเคลื่อนสองล้อ PRERUNNER ราคา 789,000 บาท
สแตนดาร์ดแค็บ (STANDARD CAB)
2.8 AT
ขับเคลื่อนสี่ล้อ 4TREX ราคา 826,000 บาท
2.8 MT
ขับเคลื่อนสี่ล้อ 4TREX ราคา 774,000 บาท
สุดท้ายต้องขอขอบคุณ บริษัทโตโยต้า มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัดที่ให้ incarsmagazine เข้าร่วมทดสอบทริปในครั้งนี้










