วอลโว่เปิดตัว Volvo ES90 สแกนดิเนเวียนซีดานอเนกประสงค์

เปิดตัวเป็นครั้งแรกในเอเชียกับ Volvo ES90 รถไฟฟ้าเต็มรูปแบบรุ่นใหม่ล่าสุด ที่ออกแบบมาเพื่อเติมเต็มความสมดุลให้ทุกการเดินทาง

  • ใหม่ล่าสุดกับเทคโนโลยีแบตเตอรี่ขนาด 800 โวลต์ ที่ให้ระยะทางการขับขี่มากกว่า 755* กิโลเมตร 
  • สานต่อเทคโนโลยีการออกแบบอันล้ำสมัยที่สามารถอัพเกรด Volvo ES90 ของคุณให้ดีขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับความปลอดภัย การเชื่อมต่อบริการและความบันเทิง และประสิทธิภาพของรถในทุกการขับขี่

วอลโว่ คาร์ ประเทศไทย เปิดตัว Volvo ES90 รถไฟฟ้าเต็มรูปแบบรุ่นใหม่ล่าสุดครั้งแรกในเอเชียที่มาพร้อมกับนิยามใหม่แห่งความอเนกประสงค์ และนวัตกรรมการขับขี่อันล้ำสมัยไว้อย่างลงตัว ผ่านรูปทรงอันเป็นเอกลักษณ์ซึ่งเกิดจากการนำเอาจุดเด่นในแง่ของความเรียบหรู สง่างามของรถซีดาน ความเอนกประสงค์ของรถที่มีหลังคาลาดเทต่อเนื่องไปจนถึงท้ายรถ (fastback) พื้นที่ภายในกว้างขวางพร้อมความสูงใต้ท้องรถที่ยกสูงขึ้นแบบรถ SUV  ทำให้ Volvo ES90 เป็นรถที่ออกแบบมาเพื่อมอบความลงตัวให้ทุกการเดินทางบนท้องถนนไม่ว่าจะเดินทางคนเดียว หรือกับครอบครัว ในทุก ๆ ช่วงเวลาของชีวิต

คุณคริส เวลส์, กรรมการผู้จัดการ, วอลโว่ คาร์ ประเทศไทย และมาเลเชีย กล่าวว่า “Volvo ES90 ผสานความทันสมัยของเทคโนโลยี ดีไซน์การออกแบบอันเรียบหรูสไตล์สแกนดิเนเวียน และความกว้างขวางสะดวกสบายของห้องโดยสารไว้ในรถเพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ในแบบพรีเมี่ยมตามแบบฉบับวอลโว่ Volvo ES90   ตอกย้ำความมุ่งมั่นสู่ความเป็นผู้นำด้านยนตรกรรมไฟฟ้าของเราได้อย่างดีเยี่ยมผ่านการออกแบบที่ควบคุมการทำงานของรถด้วยซอฟต์แวร์ และการประมวลผลผ่านชิปเซ็ตที่ทรงพลัง ทั้งยังช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กลุ่มผลิตภัณฑ์รถวอลโว่ในประเทศไทย ปัจจุบันวอลโว่อยู่คู่กับคนไทยมามากกว่า 50 ปี และเรายังคงมุ่งมั่นในการนำเสนอนวัตกรรมที่ทันสมัยเพื่อเสริมประสิทธิภาพให้การขับขี่ มอบความปลอดภัยในการเดินทาง และร่วมสร้างความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อม เพื่อรักษาความไว้ใจที่ลูกค้าวอลโว่ในประเทศไทยมีต่อแบรนด์เสมอมาจากรุ่นสู่รุ่น” 

ความทันสมัย ความโดดเด่น และใช้งานได้คล่องตัว

ดีไซน์การออกแบบภายนอกของ Volvo ES90 สะท้อนได้ถึงความทันสมัย ความโดดเด่น อย่างชัดเจน รวมถึงความสูงจากพื้นของท้องรถซึ่งทำให้สมรรถนะ และทัศนวิสัยในการขับขี่ที่ดี เส้นหลังคาที่ลาดลงด้านท้ายรถผสานความทันสมัย และความสง่างามไว้อย่างลงตัวในทุกมุมมองนอกจากนั้นช่วยเสริม แอโรไดนามิกแก่ตัวรถทำให้การจัดสรรพลังงานแบตเตอรี่ดีขึ้น จึงให้ระยะทางการขับขี่ที่ไกลขึ้น

ไฟหน้าดีไซน์ Thor’s Hammer คงเอกลักษณ์ของวอลโว่ ไฟท้าย LED จัดวางเรียงตามทรงลาดท้ายของหลังคาเชื่อมกับไฟท้ายรูปทรงตัว C ที่เสริมความโดดเด่นให้ท้ายของตัวรถ พร้อมแพทเทรินการแสดงไฟสัญลักษณ์เพื่อต้อนรับและอำลาตามแบบฉบับของวอลโว่ ตัวรถมาพร้อมสีภายนอกให้เลือกทั้งหมด 5 สี รวมถึงสีใหม่อย่าง สีเงิน Aurora Silver

ท้ายรถที่มีขนาดใหญ่ และลาดลงในสไตล์ fastback ให้ความโดดเด่นสะดุดตา และยังให้พื้นที่ในการจัดเก็บสัมภาระที่กว้างสำหรับทุกกิจกรรมของครองครัว โดยพื้นที่จัดเก็บสัมภาระด้านหลังสามารถจัดเก็บได้ถึง 446 ลิตร และขยายกว้างได้ถึง 904 ลิตร หากพับเบาะผู้โดยสารแถวสองลง  อีกทั้งเบาะผู้โดยสารแถวสองของรถยังสามารถพับลงแบบแยกจากกันได้อย่างอิสระ (40/20/40)  นอกจากนี้ยังมีที่จัดเก็บสัมภาระด้านหน้ารถหรือ FRUNK ขนาด 27 ลิตร เหมาะอย่างยิ่งสำหรับจัดเก็บสายชาร์จรถ

การออกแบบภายนอกและภายใน

  • Volvo ES90 มีดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยผสานจุดเด่นความเรียบหรูของรถซีดาน, ความเอนกประสงค์ในการใช้งาน ของรถ fastback, ความกว้างขวางในห้องโดยสารใต้ท้องรถสูง (18 เซนติเมตร) เพื่อสมรรถนะการขับขี่อันดีเยี่ยมแบบรถ SUV เข้าไว้ด้วยกัน
  • ดีไซน์ที่เพรียวบาง ตกแต่งภายนอกด้วยสีดำเงา  ด้านข้างรถถูกออกแบบให้มีเส้นนูนยาวสองเส้นขนานกันตามแนวประตูจากหน้าสู่หลังตามความยาวของฐานล้อที่ยาวถึง 3.1 เมตร ให้ดีไซน์การออกแบบสไตล์แบบเรียบ (flush) เพื่อความมินิมอล จึงให้ค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทาน (Cd) เพียง 0.25 ซึ่งเป็นค่าที่ดีที่สุดที่เคยมีมาในรถสไตล์       ซีดานของวอลโว่
  • ไฟหน้าที่เป็นเอกลักษณ์ของวอลโว่อย่าง  Thor’s Hammer ยังคงถูกนำมาใช้ พร้อมไฟ HD pixel technology จำนวน 2 หมื่นดวง ที่ปรับความสว่างของการทำงานแยกกันได้อย่างอิสระจึงให้ความสว่างที่เพียงพอแก่ผู้ขับเพื่อความปลอดภัย แต่ไม่รบกวนสายตารถที่สวนทางมา
  • เส้นหลังคาที่ลาดลงแบบรถคูเป้ถูกออกแบบให้โค้งรับกับฝาท้ายสไตล์แฮทซ์แบ็กที่ดูโฉบเฉี่ยว การออกแบบนี้ช่วยให้การเก็บและขนของเป็นไปอย่างสะดวก ผสานความสวยงามเข้ากับการใช้งานได้อย่างลงตัว ไฟท้าย LED ทรงตัว C โอบล้อมด้านหลังเพื่อให้มองเห็นได้ชัดเจนในทุกสภาพแสง ขณะที่ไฟท้ายแนวตั้งบริเวณกระจกหลังใกล้เสา D ทำให้ตัวรถมีความทันสมัย และมุมมองหลังที่ดีสำหรับผู้ขับ

สะดวกสบาย ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน ในทุกที่นั่ง

การออกแบบภายในของห้องโดยสารสะท้อนความสะดวกสบาย และความพรีเมี่ยม ด้วยวัสดุไม้จริงที่ใช้ตกแต่งแดชบอร์ด ประตู และด้านหลังที่นั่ง พร้อมการออกแบบที่คำนึกถึงถึงการใช้งานจริงเป็นสำคัญตามแนวคิดการออกแบบสไตล์สแกนดิเนเวียนของวอลโว่ฐานล้อขนาด 3.1 เมตร ให้พื้นที่โดยสารแถวสองที่กว้าง จึงให้การโดยสารที่สบายทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ หรือผู้สูงอายุ ธีมไฟบรรยากาศภายในรถสามารถเลือกปรับได้ถึง 6 ธีมสีตามความต้องการผู้ใช้รถ พร้อมเบาะที่นั่งที่เลือกได้ทั้งในแบบหนัง Nappa สีดำ Charcoal และขาว Dawn

แพลต์ฟอร์มและเทคโนโลยี

  • ตัวรถถูกพัฒนาขึ้นบนสถาปัตยกรรม แพลตฟอร์ม SPA2 ที่มีความล้ำสมัย
  • Volvo ES90 คือรถรุ่นที่สองที่เป็น software-defined หรือรถที่ทำงานด้วยระบบซอฟท์แวร์คอมพิวเตอร์ โดยใช้เทคโนโลยี Superset ของ Volvo Cars เช่นเดียวกับ Volvo EX90 โดย Superset ประกอบด้วยชุดฮาร์ดแวร์ และซอฟต์แวร์เดียวกันที่เป็นพื้นฐานสำหรับรถไฟฟ้ารุ่นใหม่ทั้งหมดของเราในอนาคต
  • ES90 เป็นรถรุ่นแรกที่สั่งงานผ่านชิปประมวลผล core computing แบบคู่  NVIDIA DRIVE AGX Orin โดยสามารถประมวลผลได้มากกว่า 500 ล้านล้านคำสั่งต่อวินาที (TOPS)
  • อัพเดทประสิทธิภาพฟังก์ชั่นการทำงานของตัวรถให้ดีขึ้นได้อย่างต่อเนื่องด้วยระบบการอัพเดทแบบ over-the-air 
  • ระบบอินโฟเทนเมนต์ภายในห้องโดยสารควบคุมด้วยชิปความเร็วสูง Snapdragon® Cockpit Platforms เพื่อประสบการณ์การใช้งานที่ลื่นไหล ตอบสนองได้ทันใจ
  • เทคโนโลยีแบตเตอรี่ 800 โวลต์ ใหม่ล่าสุด ช่วยเพิ่มความเร็วให้การชาร์จ และให้ระยะทางการขับขี่ที่ดีขึ้นกว่าเดิม โดยตัวรถให้ระยะทางรวมสูงสุดถึง 755 กิโลเมตร* เมื่อชาร์จเต็มตามมาตรฐาน NEDC
  • มอบความสบายในการขับขี่ และความนุ่มนวลด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า เจนเนเรชั่นที่ 3 ของวอลโว่ พร้อมระบบกันสะเทือนแบบถุงลม dual-chamber air suspension และช่วงล่าง Four-C active chassis ที่ปรับสภาวะการขับขี่ในอัตรา 500 ครั้งต่อวินาที เพื่อการดูดซับแรงกระแทก
  • Frequency Selective Damping (FSD) ช่วยปรับความนุ่มหนึบของโช๊คตามสภาพท้องถนนแบบอัตโนมัติ ช่วยให้การควบคุมรถทำได้อย่างมั่นใจมากขึ้น

หลังคาพาโนรามิกแบบอิเล็กโทรโครมิกที่สามารถปรับความโปร่งแสงได้เพื่อผู้ใช้งานจะสามารถปรับความเข้มของแสงที่สะท้อนเข้าถึงตัวรถ รวมถึงความเป็นส่วนตัว ได้เพียงแค่การกดปุ่มปรับตั้งค่า ตัวหลังคายังมาพร้อมคุณสมบัติในการกรองแสงยูวีได้มากถึง 99.9 เปอร์เซ็นต์  ระบบปรับอากาศในห้องโดยสามารถควบคุมได้อย่างอิสระทั้งสี่ที่นั่ง พร้อมระบบฟอกอากาศที่มีคุณสมบัติในการกรองฝุ่นละอองระดับ PM2.5 ได้มากถึง 95 เปอร์เซ็นต์ และกรองละอองขนาดเล็ก ละอองเกสรดอกไม้ รวมถึงสารก่อภูมิแพ้ ได้มากถึง 99.9 เปอร์เซ็นต์

Volvo ES90 คือหนึ่งในรถวอลโว่ที่ถูกออกแบบให้ห้องโดยสารมีความเงียบ เพื่อทั้งผู้ขับ และผู้โดยสารจะดื่มด่ำไปกับเครื่องเสียงระดับพรี่เมียมแบรนด์ Bowers & Wilkins ผ่านลำโพงคุณภาพเสียงระดับ Hi-Fi 25 ตัว รวมถึงบนหลังคา และบริเวณพนักพิงศรีษะที่ตำแหน่งเบาะโดยสารแถวหน้า ให้กำลังขับสูงถึง 1,610 วัตต์ เพื่ออรรถรสการฟังทั่วห้องโดยสารรอบทิศทางกับระบบเสียง Dolby Atmos® และพิเศษกับโหมดเสียงที่ได้รับแรงบรรดาลใจมาจากห้องอัดเสียงจากลอนดอนระดับตำนานอย่าง Abbey Road Studios

ระบบอินโฟเทนเมนต์ใน Volvo ES90 รองรับการใช้งาน Google built-in เพื่อการใช้บริการ Google Maps เพื่อการนำทาง, Google Assistant ผู้ช่วยส่วนตัวที่ใช้เสียงในการสั่งงาน  หรือใช้บริการแอปอื่น ๆ ที่ดาวน์โหลดผ่านทาง Google Play ตัวรถยังรองรับการใช้งานสัญญาณเครือข่ายระดับ 5G ผ่านแพลตฟอร์มประมวลผล Snapdragon® Cockpit Platform จากบริษัทผู้ผลิตชิปชั้นนำอย่าง Qualcomm Technologies ให้การใช้งานหน้าจอที่ลื่นไหลตอบสนองแม่นยำ ทำให้ข้อมูลสำคัญต่าง ๆ ที่จำเป็นสำหรับผู้ขับแสดงผลผ่านจอขนาด 9 นิ้ว ด้านหน้าของผู้ขับได้อย่างทันท่วงที รวมถึงการแสดงผลบริเวณ head-up display ที่กระจกหน้า จอแสดงผลส่วนกลางขนาด 14.5 นิ้ว ช่วยให้ผู้ขับและผู้โดยสารสามารถเข้าถึงฟังก์ชัน เช่น ระบบนำทาง ระบบเอ็นเตอร์เทนเมนต์, ฟังก์ชันควบคุมอุณหภูมิภายในห้องโดยสาร ฟังก์ชันการโทรและรับสาย และอื่น ๆ     และเพื่อช่วยให้การจอดรถเป็นเรื่องที่ง่ายยิ่งขึ้น Volvo ES90 ยังมาพร้อมกล้องรอบคันแบบ 360 องศา ที่รองรับการแสดงผลแบบ 3 มิติใหม่ล่าสุด เพื่อมอบความอุ่นใจ และความสะดวกสบายให้แก่ผู้ขับในทุกครั้งที่ต้องจอดในที่แคบ

ดีไซน์การออกแบบสไตล์สแกนดิเนเวียนและความสบายในการโดยสาร

  • ห้องโดยสารได้รับการออกแบบให้กันเสียงรบกวนจากภายนอก อาทิ เสียงลม เสียงถนน หรือเสียงมอเตอร์ โดยให้ระดับเสียงที่ดังเพียง 68 dB(A)  เมื่อวัดจากที่นั่งโดยสารคู่หน้า และ  70 dB(A) เมื่อวัดจากที่นั่งแถวสอง
  • ภายในห้องโดยสารมีระบบฟอกอากาศที่ได้รับการรับรองโดย Allergy Standards Limited ว่าสามารถช่วยกรองฝุ่นที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้ และหอบหืด
  • เบาะที่นั่งทำจากวัสดุหนัง Nappa โดยเบาะผู้โดยสารด้านหลังมีขนาดใหญ่ ให้ความโอ่อ่า หรูหราสไตล์ที่นั่งโดยสารชั้นธุรกิจ พร้อมที่วางมือเมื่อดึงที่วางแก้ว และโทรศัพท์บริเวณกึ่งกลางเบาะโดยสารลงมา
  • พนักพิงของที่นั่งโดยสารแถวหน้ามาพร้อมระบบนวดไฟฟ้า ที่มีจุดนวดถึง  10 จุด พร้อมโปรแกรมนวด 5 รูปแบบ ที่ความเร็วและความแรงให้เลือกปรับถึง 3 ระดับ ตามความต้องการของผู้ใช้
  • เบาะที่นั่งผู้โดยสารด้านหลังยังสามารถปรับองศาให้เอนนอนได้มากถึงระหว่าง 28-33 องศา ตัวเบาะมาพร้อมระบบระบายอากาศเพื่อความสบายในการนั่งโดยสาร
  • ระบบปรับอากาศที่แยกการควบคุมแบบ 4 โซน ให้อุณหูมิที่เหมาะกับความต้องการของผู้โดยสารทั้ง 4 ที่นั่ง
  • ที่นั่งโดยสารแถวหลังมีพอร์ต USB-C 2 พอร์ต เพื่อการเชื่อมต่อที่สะดวกไม่ว่าจะเป็นการชาร์จแบตเตอรี่ให้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิก หรือเชื่อมต่อระบบอินโฟเทนเมนต์
  • ฝากระโปรงท้ายควบคุมด้วยระบบไฟฟ้าที่เปิดได้สูงถึงระดับหลังคารถ  เบาะผู้โดยสารแถวสองสามารถพับลงแยกกันได้อย่างอิสระในแบบ 40/20/40 จึงให้พื้นที่บรรทุกสัมภาระที่กว้างขวาง
  • สะท้อนความเรียบหรูสไตล์สแกนดิเนเวียนด้วยแผงตกแต่งแดชบอร์ด ประตู และด้านหลังที่นั่ง ที่ทำขึ้นจากวัสดุไม้จริงซึ่งได้รับการรับรอง จาก FSC-certified  ประดับบนแผงไฟ LED ทำให้เกิดไฟ ambience ในห้องโดยสารที่อบอุ่น ผ่อนคลาย และเมื่อมองลึกไปกว่านั้น แผงตกแต่งดังกล่าวยังมีลูกเล่นเป็นลายรหัสมอร์ส (Morse code) ที่เมื่อถอดรหัสออกมาจะพบคำว่า  Volvo 
  • ไฟ LED ที่ตกแต่งภายในห้องโดยสารยังถูกออกแบบให้ใกล้เคียงกับแสงธรรมชาติจากภายนอกรถ จึงให้การส่องสว่างที่นุ่มนวล ไม่กระพริบ และลดปริมาณแสงสีฟ้า จึงช่วยลดความเมื่อยล้าของดวงตาเมื่อต้องขับรถในเวลากลางคืน
  • หลังคาพาโนรามิกแบบอิเล็กโทรโครมิก (electrochromic) ที่สามารถปรับความโปร่งแสงได้ ผู้ใช้งานจึงสามารถปรับความเข้มของแสงที่สะท้อนเข้าในห้องโดยสารได้เพียงแค่การกดปุ่ม 
  • มอบสุดยอดความสุนทรีย์ในห้องโดยสารด้วยเครื่องเสียงจาก Bowers & Wilkins ผ่านลำโพง 25 ตัว ให้กำลังขับสูงถึง 1,610 วัตต์ พร้อมระบบเสียง Dolby Atmos® และโหมดเสียง Abbey Road Studios
  • มองเห็นข้อมูลที่จำเป็นของรถในระหว่างการขับ และควบคุมฟังก์ชันต่าง ๆ ในรถได้อย่างสะดวกผ่านหน้าจอหน้าผู้ขับ (driver display) ขนาด 9 นิ้ว และหน้าจอกลางขนาด 14.5 นิ้ว และ head-up display ความคมชัดสูง 
  • ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ด้วยฟังก์ชัน Google built-in เพื่อการใช้งานแผนที่นำทางจาก Google Maps, บริการผู้ช่วย Google Assistant และบริการอื่น ๆ ที่โหลดได้จาก Google Play 
  • นอกจากนี้ ยังรองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay แบบไร้สาย Android Auto และ Android Automotive OS 
  • รองรับการใช้งานสัญญาณเครือข่ายระดับ 5G จึงให้การเชื่อมต่อข้อมูลที่รวดเร็ว
  • กุญแจแบบ Digital Key Plus ที่เพียงแค่คุณพก iPhone,นาฬิกา Apple Watch หรืออุปกรณ์ Android รุ่นที่รองรับ ก็สามารถใช้เป็นกุญแจเพื่อแบบดิจิทัลสำหรับรถในแอป Wallet โดยไม่ต้องพกกุญแจดอกจริงเพื่อใช้รถ
  • ที่จุสัมภาระด้านหลังจุได้มาถึง 446 ลิตร รวมถึงช่องขนาด 16 ลิตร ที่อยู่ข้างใต้พื้นที่เก็บสัมภาระ และสามารถจุได้ถึง 904 ลิตร หากพับเบาะแถวสองลง
  • พื้นที่จัดเก็บสัมภาระด้านหน้า หรือ FRUNK ขนาด 27 ลิตร สำหรับการจัดเก็บสายชาร์จ หรือของที่ไม่ค่อยได้ใช้ 
  • ประตูปิดแบบ soft close ทุกบาน

อัพเดทการใช้งานให้ดีขึ้นได้อย่างสม่ำเสมอ

Volvo ES90 ผลิตขึ้นบนแพลตฟอร์ม SPA2 ที่มีเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดของวอลโว่ Superset tech stack ที่รวมการทำงานระหว่างฮาร์ดแวร์ และซอฟต์แวร์โมดูล เข้าไว้ด้วยกันเพื่อรองรับการพัฒนาต่อยอดรถไฟฟ้าของวอลโว่ในอนาคต โดยเทคโนโลยีดังกล่าวนี้จะทำให้ วอลโว่ คาร์ สามารถพัฒนา และปรับปรุงคุณภาพ ประสิทธิภาพ ความปลอดภัย ของรถวอลโว่ที่พัฒนาด้วยเทคโนโลยี Superset ได้ตลอดอายุการใช้งานรถผ่านการอัพเดทในแบบ over-the-air  นอกจากนี้ ES90 ยังเป็นรถไฟฟ้าคันแรกของวอลโว่ที่มาพร้อมชิปประมวลผล NVIDIA DRIVE AGX Orin แบบคู่ ทำให้รถมีพลังในการประมวลผลด้วย คอร์ คอมพิ้วติ้ง มากกว่าที่เคยมีมา ซึ่งประสิทธิภาพในการประมวลผลขั้นสูงนี้ช่วยยกระดับมาตรฐานความปลอดภัย และประสิทธิภาพของตัวรถให้เพิ่มขึ้นจากการผสานการทำงานระหว่างข้อมูล ซอฟต์แวร์ และ AI

ในแง่ของเทคโนโลยีแบตเตอรี่ Volvo ES90 มาพร้อมระบบการขับเคลื่อนด้วยพลังไฟฟ้า และเทคโนโลยีแบตเตอรี่ 800 โวลต์ ใหม่ล่าสุด ช่วยเพิ่มความเร็วให้การชาร์จ และระยะทางในการขับขี่ให้ดีขึ้นกว่าเดิม และระยะทางรวมสูงสุดถึง 755 กิโลเมตร* เมื่อชาร์จเต็มตามมาตรฐาน NEDC พลังขับเคลื่อนของเทคโนโลยีแบตเตอรี่ 800 โวลต์ ถูกควบคุมด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า และส่วนประกอบอื่น ๆ ที่มีน้ำหนักเบาจึงช่วยลดน้ำหนัก และเพิ่มประสิทธิของตัวรถโดยรวมซึ่งรวมถึง อัตราเร่ง, ระยะทางการขับ และค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ (Cd) ที่เพียง 0.25 ทำให้ผู้ใช้งานสามารถเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในระยะเวลาเพียง 6.6 วินาที 

ความปลอดภัย

  • มอบความปลอดภัยในการขับขี่ผ่านการใช้งานเซนเซอร์ล้ำสมัย ได้แก่ เรดาห์ 5 ตัว, กล้อง 7 ตัว, เซนเซอร์อัลตราโซนิก 12 ตัว และ lidar ผ่านมุมมองรอบคัน 360 องศาแบบเรียลไทม์เพื่อป้องกันการชน
  • ภายในมาพร้อมระบบรับรู้สภาวะของคนขับ หรือ driver understanding system โดยตัวระบบทำงานด้วยชุดเซ็นเซอร์อินฟาเรด (IR Sensor) 2 ตัว และพวงมาลัยสัมผัสแบบ capacitive โดยจะคอยมอนิเตอร์ดวงตา หนังตา ศีรษะ รวมถึงท่าทางของผู้ขับ เพื่อประเมินความพร้อมในการขับขี่ โดยหากพบว่าผู้ขับเผลอหลับ หรือหมดสติในขณะขับรถ ระบบดังกล่าวจะทำงานโดยอัตโนมัติเพื่อช่วยควบคุมตัวรถ 
  • ระบบแจ้งเตือนการเปิดประตู door opening alert ผ่านเรดาร์ที่ตรวจจับวัตถุที่เคลื่อนที่มาจากด้านหลัง เช่น รถจักรยานหรือมอเตอร์ไซค์ โดยรถจะส่งเสียงเตือนหากคนในรถจะเปิดประตูเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ

ความยั่งยืน

  • เดินหน้าสู่ความยั่งยืนผ่านวัสดุที่นำมาใช้เป็นส่วนประกอบของรถ อาทิ อะลูมินั่มรีไซเคิล 29% เหล็กรีไซเคิล 18% และโพลิเมอร์รีไซเคิล 16% รวมถึงยังมีกาศใช้งานวัสดุชีวภาพอื่น ๆ เป็นส่วนประกอบ

หมายเหตุ

*อ้างอิงผลการทดสอบที่ได้รับจากห้องปฏิบัติการณ์ภายใต้สภาวะควบคุมเพื่อใช้ยื่นขอ ECO Sticker ตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม ทั้งนี้ ผลจากการใช้งานจริงอาจแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น อุณหภูมิแวดล้อม ลักษณะการขับขี่ จำนวนผู้โดยสารในรถ เป็นต้น

สานต่อความมุ่งมั่นด้านความยั่งยืน

นอกเหนือจากเทคโนโลยีแบตเตอรี่ อีกหนึ่งจุดเด่นของ Volvo ES90 คือความมุ่งมั่นในการมีส่วนร่วมสร้างความยั่งยืนของวอลโว่ ผ่านวัสดุที่เลือกใช้ซึ่งไม่เพียงเป็นวัสดุที่มาจากธรรมชาติ แต่ยังเป็นวัสดุรีไซเคิลเพื่อลดปริมาณก๊าซ Co2 ในการผลิต และในส่วนของตัวรถก็มีการนำวัสดุรีไซเคิลอย่าง อะลูมินั่มราว 29% และเหล็กราว 18% โพลีเมอร์ราว 16% มาใช้ รวมถึงการใช้งานวัสดุชีวภาพ และวัสดุธรรมชาติอย่างไม้จริงที่มาจากแหล่งที่ได้รับการรับรองโดย FSC

มาตรฐานความปลอดภัยระดับวอลโว่ ทั้งนอกและในรถกับ Safe Space Technology

เพราะความปลอดภัยคือหัวใจหลักของวอลโว่ Volvo ES90 จึงถูกออกแบบให้มาพร้อมการปกป้องทั้งภายในและนอกรถ ตามมาตรฐานความปลอดภัยของวอลโว่ คาร์ (Volvo Cars Safety Standard) ที่มีการทำการทดสอบ และศึกษาค้นคว้าตลอด 55 ปีที่ผ่านมาจากเหตุการณ์อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นจริง ซึ่งเป็นมาตรฐานที่มากกว่ามาตรฐานอุตสาหกรรมโดยทั่วไป โดยเมื่อผสานการทำงานของระบบความปลอดภัยเข้ากับการทำงานที่ทรงพลังของระบบประมวลผลจาก คอร์ คอมพิ้วติ้ง แล้ว Volvo ES90 จึงเป็นรถที่สานต่อปฐมบทความปลอดภัยรูปแบบใหม่ของ วอลโว่ คาร์ อย่างแท้จริง

Volvo ES90 มีโครงสร้างตัวถังนิรภัยที่แข็งแกร่ง ระบบป้องกันการชนขั้นสูง รวมถึงมีพื้นที่ในการซับแรงกระแทกที่ได้รับการออกแบบมาอย่างดี นอกจากนี้ยังมาพร้อมระบบความปลอดภัยในการขับขี่    แบบแอคทีฟผ่านการใช้งานเซนเซอร์ล้ำสมัยรวมถึงเรดาห์ 5 ตัว, กล้อง 7 ตัว, เซนเซอร์อัลตราโซนิก 12 ตัว และ lidar จาก Luminar Technologies โดยระบบเซนเซอร์เหล่านี้ให้ประสิทธิภาพในการมองเห็นที่ไกลกว่าสายตาของคนจึงให้ประสิทธิภาพในการตรวจจับวัตถุเพื่อหลีกเลี่ยงการชน และอันตรายบนท้องถนนทำได้อย่างดีเยี่ยม  Volvo ES90 ยังมาพร้อมระบบ driver understanding system ที่สามารถตรวจจับได้เมื่อผู้ขับขี่สูญเสียสมาธิจากถนน และเข้ามาช่วยสนับสนุนได้ทันที Safe Space Technology ใน Volvo ES90 มอบการปกป้องไม่เพียงแค่ระหว่างการขับขี่ แต่ยังรวมถึงขณะจอดรถด้วยระบบแจ้งเตือนการเปิดประตู (door opening alert) ช่วยป้องกันอุบัติเหตุกับนักปั่นจักรยานและคนเดินถนนที่สัญจรผ่านขณะเปิดประตู

ราคา 

Volvo ES90 Ultra Single Motor Extended Range        2,990,000    บาท

Volvo ES90 คาดว่าจะพร้อมส่งมอบให้แก่ลูกค้าในประเทศภายในสิ้นเดือนธันวาคมนี้ หรือ ต้นเดือนมกราคม พ.ศ. 2569 

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติม รวมถึงข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับ วอลโว่ คาร์ ประเทศไทย ได้ที่

Website – www.volvocars.com/th

Facebookhttps://www.facebook.com/volvocarsth

Youtube – https://www.youtube.com/user/VolvoCarsThailand

LINEhttps://page.line.me/002olnns?oat_content=url&openQrModal=true

เยี่ยมชม Volvo Studio ICONSIAM ได้ที่ชั้น 3 ห้างสรรพสินค้าไอคอนสยาม และ เยี่ยมชม Volvo Studio EmSphere ได้ที่ชั้น 2 ห้างสรรพสินค้า ดิ เอ็มสเฟียร์ เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวอลโว่ สำหรับสอบถามข้อมูลทั่วไป กรุณาโทร 02-544-0446 

สำหรับลูกค้าวอลโว่ปัจจุบันสามารถลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิพิเศษเฉพาะลูกค้าได้ที่ https://bit.ly/459u6HD

หมายเหตุ

*อ้างอิงผลการทดสอบที่ได้รับจากห้องปฏิบัติการณ์ภายใต้สภาวะควบคุมเพื่อใช้ยื่นขอ ECO Sticker ตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม ทั้งนี้ ผลจากการใช้งานจริงอาจแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น อุณหภูมิแวดล้อม ลักษณะการขับขี่ จำนวนผู้โดยสารในรถ เป็นต้น