เปิดตัวครั้งแรกของโลก กับ TOYOTA HILUX รถกระบะที่อยู่เคียงข้างคนไทยมายาวนาน ภายใต้ชื่อใหม่ TOYOTA HILUX TRAVO และ HILUX TRAVO-e กับคอนเซ็ปต์ “GREATER TOGETHER…สู่ความยิ่งใหญ่ไปด้วยกัน”

มร.ไซม่อน ฮัมฟรีส์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านแบรนด์ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชัน ประเทศญี่ปุ่น / มร.นิค โฮจิออส ผู้จัดการอาวุโส โตโยต้าดีไซน์ ประเทศออสเตรเลีย / ดร.ธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม / ดร.ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม / นายฐาปกรณ์ กุลเจริญ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม / นางสาวจิรัฐิติกาล จันทราทิพย์ ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี / นายกลินท์ สารสิน ประธานคณะกรรมการ และ มร.โนริอากิ ยามาชิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ พร้อมกับ นายศุภกร รัตนวราหะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด พร้อมด้วย นางสาวอัญญารัตน์ สุทธิเบญจกุล หัวหน้าวิศวกรระดับภูมิภาค บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ เอเชีย (ประเทศไทย) จำกัด และ มร.ฮาคุโฮ โช เจ้าของแชมป์กีฬาซูโม่ระดับโยโกสุนะ (Yokozuna) ชื่อดัง ลำดับที่ 69 จากประเทศญี่ปุ่น

ร่วมแถลงข่าวเปิดตัวรถกระบะมหาชนรุ่นใหม่ล่าสุด เป็นครั้งแรกของโลกที่ประเทศไทยกับ TOYOTA HILUX TRAVO และ HILUX TRAVO-e เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2568 ณ ศูนย์นิทรรศการและ การประชุมไบเทคในประเทศไทย รถกระบะสะท้อนความผูกพันอันลึกซึ้ง เสมือนเพื่อนร่วมเดินทาง ที่อยู่เคียงข้างกันมาอย่างยาวนาน จนถึงปัจจุบันเราจะเห็นรถกระบะในทุกมิติของชีวิต ไม่ว่าจะใช้ในการประกอบอาชีพ ขนส่งสินค้า เดินทางในชีวิตประจำวัน หรือเติมเต็มไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย จึงกล่าวได้ว่า สำหรับคนไทย รถกระบะไม่ใช่แค่พาหนะ แต่เป็นเหมือนเพื่อนคู่ใจและเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต

จุดเริ่มต้นของก้าวสำคัญที่โตโยต้า และคนไทยได้ร่วมกันสร้างขึ้น คือ โครงการ IMV (Innovative International Multi-purpose Vehicle) เมื่อปีพ.ศ. 2547 โดย IMV คือโครงการผลิตรถกระบะขนาด 1 ตัน ภายใต้ชื่อรถกระบะ ไฮลักซ์ (รุ่นที่ 7) รถยนต์อเนกประสงค์ ฟอร์จูนเนอร์ (และรถมินิแวน อินโนวาในต่างประเทศ) รวมถึงเครื่องยนต์ และชิ้นส่วนอะไหล่ เพื่อจำหน่ายภายในประเทศและส่งออก ด้วยมูลค่าการลงทุน ณ ขณะนั้น 30,000 ล้านบาท ภายใต้วัตถุประสงค์ที่จะผลิตรถยนต์ที่มีคุณภาพสูง สามารถตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของผู้บริโภค โดยรถยนต์ในโครงการดังกล่าวได้ผ่านการทุ่มเท วิจัย และพัฒนา เพื่อให้ได้รถที่ตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของลูกค้าในทุกภูมิภาคทั่วโลก

โครงการ IMV ได้ทำให้ โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย เปลี่ยนบทบาทจากฐานการผลิตที่เน้นตลาดภายในประเทศ สู่การเป็นศูนย์กลางการผลิตและส่งออกรถกระบะ ในปัจจุบัน HILUX ที่ผลิตในไทยได้ถูกส่งออกไปยัง 133 ประเทศทั่วโลก มียอดส่งออกสะสมกว่า 4.6 ล้านคัน มีการใช้ชิ้นส่วนภายในประเทศด้วยสัดส่วนสูงสุดถึง 95% ก่อให้เกิดการสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ ให้กับคนไทย ผ่านการจ้างงานกว่า 275,000 คน ทั้งพนักงานในเครือ พนักงานของผู้แทนจำหน่ายฯ 153 แห่ง และผู้ผลิตชิ้นส่วนกว่า 290 แห่งทั่วประเทศ ส่งผลให้ HILUX มีส่วนสำคัญในการเสริมสร้างอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย คิดเป็นกว่า 30% ของอุตสาหกรรมยานยนต์ทั้งหมด และมีส่วนช่วยสร้าง GDP ให้ประเทศไทยมากถึง 3% ต่อปี สะท้อนถึงมูลค่าทางเศรษฐกิจอันมหาศาลตลอดห่วงโซ่อุปทานที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้คือบทพิสูจน์ว่า HILUX ไม่ได้เป็นเพียงรถกระบะ แต่คือ “รถกระบะมหาชน” ที่มีบทบาทสำคัญต่อการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจของประเทศอย่างแท้จริง

บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย ภูมิใจนำเสนอรถกระบะไฮลักซ์รุ่นใหม่ เจเนอเรชันที่ 9 เป็นครั้งแรกของโลก (World Premiere) ภายใต้ชื่อ “TOYOTA HILUX TRAVO” ด้วยการนำทีมของวิศวกรชาวไทย HILUX TRAVO ได้รับการพัฒนาผ่านการรับฟังเสียงของผู้ใช้ชาวไทยอย่างใกล้ชิดในทุกมิติ พร้อมนำข้อมูลมาปรับปรุงและต่อยอดการพัฒนา เพื่อตอบโจทย์การใช้งานและไลฟ์สไตล์ของคนไทยได้อย่างดีที่สุด ด้วยดีไซน์ใหม่ ทั้งการออกแบบภายนอกและภายใน ภายใต้ดีไซน์คอนเซ็ปต์ “Tough & Agile” ที่ผสาน ”ความแข็งแกร่ง เข้ากับ ความคล่องตัว” มาพร้อมกับการออกแบบด้านหน้าด้วยแนวคิด “Cyber Sumo” ที่เป็นท่าเตรียมพร้อมในการต่อสู้ Shikiri Pose เพื่อแสดงให้เห็นถึงความ แข็งแกร่ง (Stable) แข็งแรง (Strong) และ มั่นคง (Steady) การออกแบบภายในใช้แนวคิด “Robust Simplicity” ที่เน้นความเรียบง่ายแต่ทรงพลัง ทุกฟังก์ชันใช้งานได้จริง พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน และ ทันสมัยที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีความปลอดภัย Toyota Safety Sense เวอร์ชันล่าสุด และอุปกรณ์เสริมความปลอดภัยอีกมากมาย

HILUX TRAVO ได้ให้ความสำคัญกับการบังคับควบคุม และความนุ่มนวลในการขับขี่เป็นพิเศษ จึงได้แนะนำเทคโนโลยี “Dynamic Cloud” ในการพัฒนาองค์ประกอบต่างๆ ที่ส่งผลต่อการขับขี่ เพื่อมอบการขับขี่ที่นุ่มนวล บังคับควบคุมแม่นยำ และทรงตัวเยี่ยมและ HILUX TRAVO ทุกรุ่นจะมาพร้อมกับขุมพลัง GD Super Power ขนาด 2.8 ลิตร ที่ให้กำลังสูง และมีการปรับปรุงความประหยัดน้ำมันให้ดียิ่งขึ้น โดยประหยัดน้ำมันมากกว่าเครื่องยนต์ 2.4 ลิตร สูงสุดถึง 5.8% และมากกว่าเครื่อง 2.8 ลิตร รุ่นเดิมถึง 7.5% นอกจากรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล โตโยต้า นำเสนออีกหนึ่งทางเลือกตามหลักคิด Multi-Pathway กับรถกระบะไฟฟ้า “HILUX TRAVO-e” ซึ่งเป็นการแนะนำรถไฟฟ้าแบบ Body-on-frame รุ่นแรกของโตโยต้าที่มีการวางจำหน่ายจริง พัฒนาขึ้นโดยยึดถือหลักการ QDR (Quality-Durability-Reliability) อันเป็นหัวใจของโตโยต้า และยังคงสมรรถนะ ความทนทานตามมาตรฐานรถกระบะ HILUX และเสริมด้วยเทคโนโลยี “Diamond Guard” ช่วยปกป้องแบตเตอรี่ และชุดขับเคลื่อนไฟฟ้า ช่วยให้คุณใช้งาน TRAVO-e ได้อย่างมั่นใจในความปลอดภัย ทั้งการใช้งานส่วนบุคคล การบรรทุกและการขับขี่แบบออฟโรด

HILUX ใหม่ นับเป็นเจเนอเรชันที่ 9 ของรถระดับตำนาน ซึ่งในแต่ละเจเนอเรชัน HILUXได้รับการพัฒนาให้แข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ ผ่านการพัฒนาจากการใช้งานจริงบนท้องถนน ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของเหล่าวิศวกร และที่สำคัญที่สุด คือการรับฟังเสียงของลูกค้าทั่วโลก โดย HILUX เป็นรถกระบะที่มีการเปลี่ยนแปลงไปตามบริบทที่หมุนเปลี่ยนไปของโลกและสังคมเช่นเดียวกัน โตโยต้ารับฟังเสียงตั้งแต่คนงานในเหมืองที่ต้องการความทรหด ครอบครัวที่ต้องการความสะดวกสบายมากขึ้น เจ้าของธุรกิจที่ใส่ใจเรื่องความประหยัดน้ำมัน ไปจนถึงนักผจญภัยรุ่นใหม่ที่ต้องการดีไซน์และเทคโนโลยีที่เข้ากับไลฟ์สไตล์ ไปสู่ยานพาหนะที่อุ่นใจและไว้วางใจได้ พร้อมเชื่อมโยงผู้คนเข้ากับโอกาสต่างๆ ด้วยยนตรกรรมที่แข็งแกร่ง เรียบง่าย และทนทาน เมื่อมองไปข้างหน้า โตโยต้ากำลังมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน ที่ไม่จำกัดเพียงหนทางใดหนใดหนึ่ง หากแต่มุ่งนำเสนอทางเลือกอันหลากหลาย (Multi-Pathway) เพราะความจริงคือ ไม่มีภูมิภาคใดหรือลูกค้าคนใด ที่เหมือนกัน ความหลากหลายนี้ครอบคลุมถึงระบบขับเคลื่อน รูปแบบตัวรถ และความสามารถในการปรับแต่ง…ทั้งหมดเพื่อไม่ให้ใครถูกทิ้งไว้ข้างหลัง โดยที่โตโยต้าได้พัฒนา HILUX แต่ละรุ่นให้ดียิ่งขึ้น ภายใต้คำมั่นสัญญาที่ยังคงเดิม นั่นคือ HILUX คือเพื่อนคู่ใจและเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต

HILUX ได้รับการยอมรับจากผู้ใช้งานจริงจาก 7 ใน 8 ภูมิภาคทั่วโลก สำหรับ HILUX รุ่นใหม่นี้ พวกเราได้เดินทางไปทั่วทุกภูมิภาค ตั้งแต่ทะเลทรายในตะวันออกกลาง ที่ราบสูงในอเมริกาใต้ ทุ่งหญ้าในแอฟริกา ไปจนถึงพื้นที่ห่างไกลของออสเตรเลีย และพื้นที่หนาวจัดของยุโรป แต่ละตลาดต่างมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เราได้เรียนรู้จากสภาพท้องถนน ภูมิอากาศ และไลฟ์สไตล์ของลูกค้าที่แตกต่างกัน แล้วนำข้อมูลเชิงลึกเหล่านั้นมาพัฒนาเป็น แม่แบบในการพัฒนา (Blueprint) นี่จึงเป็นเหตุผลที่เราตั้งใจพัฒนาจากในระดับภูมิภาค เพื่อออกแบบรถให้สอดคล้องกับสภาพที่แตกต่างกันของแต่ละพื้นที่ ขณะเดียวกันก็ยังคงรักษามาตรฐานระดับโลกของโตโยต้าเอาไว้ ทั้งในด้านความปลอดภัยและสมรรถนะ ผลลัพธ์ก็คือรถยนต์ที่กลายเป็น “เพื่อนคู่ใจและเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต” อย่างแท้จริง

นอกจากนี้ HILUX รุ่นใหม่กำลังพัฒนาไปพร้อมกับยานยนต์ไฟฟ้า (electrification) เทคโนโลยีการเชื่อมต่อ (connected technologies) และบริการดิจิทัล (digital services) โดยที่เรายังคงยึดมั่นในรากฐานเดิม ทุกองค์ประกอบตั้งแต่การออกแบบไปจนถึงการทดสอบ ล้วนถูกขับเคลื่อนด้วยความมุ่งมั่นที่จะสร้างยานยนต์ที่น่าเชื่อถือ ยืดหยุ่น และพร้อมสำหรับอนาคต ความหลงใหลนี้ผลักดันให้เราสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ ในขณะที่ยังคงยึดมั่นในคุณค่าของ QDR (คุณภาพ ความทนทาน และความน่าเชื่อถือ) ที่ลูกค้าคาดหวังจากโตโยต้า

ประการแรก ความน่าเชื่อถือคือสิ่งสำคัญอันดับแรกที่ลูกค้าของเราต้องการมากที่สุด จากเส้นทางภูเขาที่สมบุกสมบัน สู่ถนนในเมืองที่พลุกพล่าน HILUX รุ่นใหม่ได้รับการพัฒนาให้พร้อมรับมือได้กับทุกสภาพถนน เพื่อให้สามารถเดินทางไปทุกหนทุกแห่ง เพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้ ไฮลักซ์ใหม่ มีการเสริมความแข็งแกร่งของตัวถัง ปรับจูนประสิทธิภาพช่วงล่างให้เหมาะสม และนำระบบพวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้า (EPS) มาใช้ เพิ่มความมั่นใจในการขับขี่และควบคุมได้ง่ายยิ่งขึ้น ผลลัพธ์คือ ยานยนต์ที่ไม่เพียงแค่ทนทานต่อสภาวะที่ยากลำบาก แต่ยังอยู่รอดได้ดีในสภาวะการ์ณเหล่านั้น เป็นการมอบความแข็งแกร่งและความทนทานที่ลูกค้าคาดหวังจากโตโยต้า เป้าหมายของโตโยต้าคือไม่เพียงสร้างรถที่แข็งแกร่งขึ้น แต่ยังฉลาดขึ้นด้วย HILUX ใหม่ออกแบบให้มีความสดใหม่ทั้งรูปลักษณ์ทั้งภายนอกและภายใน พร้อมรองรับการตกแต่งเพิ่มเติมเองได้ตามความต้องการเฉพาะของลูกค้าแต่ละคน เรายังเพิ่มเทคโนโลยีความปลอดภัยและระบบอิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูง เช่น Toyota Safety Sense 3 (TSS 3), Panoramic View Monitor (PVM) และ Multi-Terrain Monitor (MTM) นวัตกรรมเหล่านี้ช่วยเพิ่มการปกป้องผู้ขับขี่ให้ดียิ่งข้นในสถานการณ์จราจรที่หลากหลาย นอกจากนี้ ระบบ PVM และ MTM ให้ภาพแบบเรียลไทม์ของพื้นที่รอบตัวและใต้ท้องรถ เพื่อช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถผ่านเส้นทางที่ท้าทายได้อย่างมั่นใจและปลอดภัย — ไม่ว่าจะเดินทางไปที่ใดก็ตาม

ในขณะที่โลกกำลังก้าวไปสู่สังคมแห่งความเป็นกลางทางคาร์บอน โตโยต้ามีเป้าหมายชัดเจน “จะไม่มีใครถูกทิ้งไว้ข้างหลัง” โตโยต้าเชื่อว่าไม่มีทางออกเดียวที่ตอบโจทย์ลูกค้าทั้งหมดได้ แต่เราต้องมี “ทางเลือกที่หลากหลาย” เพื่อให้เหมาะกับการใช้งานและวิถีชีวิตของแต่ละคน HILUX ใหม่พร้อมแล้วสำหรับความจริงนี้ ด้วยการพัฒนาให้ก้าวข้ามเครื่องยนต์สันดาปแบบเดิม เพิ่มทางเลือกใหม่ของระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าเต็มรูปแบบ (BEV – Battery Electric Vehicle) เพื่อให้ตอบโจทย์ทุกตลาด ทุกลูกค้า และทุกความต้องการ แนวทาง Multi-Pathway นี้คือการสร้างโซลูชันการเดินทางที่ครอบคลุม ปฏิบัติได้จริง และยั่งยืนสำหรับทุกคน

HILUX BEV รุ่นใหม่ได้รับการออกแบบให้ช่วยลดมลพิษทางอากาศ ขณะเดียวกันยังคงสมรรถนะของรถแบบ Body-on-Frame ไว้อย่างครบถ้วน — ทั้งความสามารถในการลุยออฟโรด การลุยน้ำลึก และการบรรทุกหรือการลากจูง เป้าหมายของเราคือทำให้ HILUX เป็นรถที่ตอบโจทย์ทุกกลุ่ม ตั้งแต่ผู้ใช้ในเมือง นักผจญภัย ไปจนถึงผู้คนที่ทำงานในอาชีพต่าง ๆ ให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตและสถานการณ์พลังงานของแต่ละประเทศ ทั้งหมดนี้เพื่อสนับสนุนเป้าหมายการลดการปล่อยคาร์บอนของโลกนวัตกรรมทั้งหมดนี้ตอกย้ำบทบาทของ HILUX ในฐานะ “เพื่อนคู่ใจและเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต” พร้อมเติบโตไปด้วยกันกับเจ้าของรถ และคงคุณค่าไปตลอดอายุการใช้งาน ความหลากหลายและความยืดหยุ่นนี้ทำให้ HILUX ยังคงตอบโจทย์ทั้งความต้องการของวันนี้ และความท้าทายในวันพรุ่งนี้”
นายศุภกร รัตนวราหะ แถลงกลยุทธ์ทางการตลาดว่า “ชื่อของ “TRAVO” ได้รับแรงบันดาลใจจากการผสมผสานคำว่า “travel” และ “voyage” สะท้อนถึงจิตวิญญาณแห่งการเคลื่อนไหว การสำรวจ และการผจญภัยเป็นเพื่อนร่วมทางของผู้ที่มีแรงขับเคลื่อนในชีวิต พร้อมปรับตัว และกล้าท้าทายสิ่งใหม่ ๆ รวมถึงการเติบโตทั้งในชีวิตส่วนตัวและสายอาชีพและแน่นอนว่า ประเทศไทยถือเป็นหนึ่งในตลาดเชิงกลยุทธ์ที่สำคัญ ระหว่างการพัฒนา HILUX TRAVO ทีมวิศวกรของเราได้ลงพื้นที่ศึกษาวิจัยอย่างลึกซึ้ง เพื่อทำความเข้าใจว่า ‘รถกระบะในอุดมคติ’ สำหรับคนไทยควรเป็นอย่างไร ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานแบบผสมผสาน ทั้งด้านโลจิสติกส์ การเดินทาง หรือการใช้ส่วนตัวเพื่อท่องเที่ยว ทีมงานได้สำรวจตลาด รับฟังเสียงจากลูกค้า อินฟลูเอนเซอร์ และร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นอย่างใกล้ชิดกับพี่ๆ สื่อมวลชนสายยานยนต์

ตำแหน่งผลิตภัณฑ์ของ HILUX ประกอบด้วย 3 รุ่นหลัก ได้แก่ HILUX REVO / HILUX TRAVO และ HILUX CHAMP
- HILUX REVO จะเน้นการใช้งานเชิงธุรกิจ โดยเฉพาะกลุ่มโลจิสติกส์ และผู้ที่ชื่นชอบการตกแต่งรถ
- HILUX TRAVO เน้นฟังก์ชันการใช้งานที่ตอบโจทย์ลูกค้าหลากหลายกลุ่ม ทั้ง Off road และ Urban Lifestyle ขณะที่ HILUX TRAVO-e เหมาะสำหรับผู้ที่ให้ความสำคัญกับคุณภาพระดับพรีเมียม และองค์กรที่มีวิสัยทัศน์
- HILUX CHAMP จะเน้นไปที่ตลาด Conversion ตอบโจทธ์ธุรกิจ และผู้ใช้ส่วนตัวที่รักการตกแต่งรถ
HILUX ทั้ง 3 รุ่นนี้ โตโยต้ายังคงยึดมั่น ในการที่จะไม่ทิ้งลูกค้ากลุ่มใดไว้ข้างหลัง เริ่มจาก HILUX TRAVO นำโดย รุ่น Overland รถเรือธงของเราที่เน้นลูกค้าส่วนบุคคลที่มองหาคู่หูที่ไว้ใจได้ พร้อมลุยทุกเส้นทาง ด้วยดีไซน์ที่โดดเด่น และ ระบบการขับขี่ “Dynamic Cloud” ที่เพิ่มประสิทธิภาพ การควบคุมการทรงตัวและสัมผัสได้ถึงความนุ่มนวลที่ดียิ่งขึ้น เสริมสร้างสมรรถนะในการขับขี่และความสบายในทุกมิติ เพื่อให้ลูกค้าได้มีโอกาสสัมผัสประสบการณ์จริง เราขอเชิญทุกท่านที่โชว์รูมโตโยต้าได้ตั้งแต่วันที่ 21–30 พฤศจิกายน

นอกจากนี้ สำหรับลูกค้าในเขตกรุงเทพและปริมณฑล สามารถสัมผัส HILUX TRAVO ได้ที่งาน Thailand International Motor Expo ณ อิมแพค เมืองทองธานี และสำหรับผู้ที่อยากสัมผัสสมรรถนะ 4×4 อย่างเต็มรูปแบบ ขอเชิญร่วมกิจกรรมทดลองขับที่สนามทดสอบใหม่ล่าสุด ณ Toyota ALIVE ในเดือนธันวาคมนี้ สำหรับรถกระบะไฟฟ้า TRAVO-e ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าระดับพรีเมียม และองค์กรที่มีวิสัยทัศน์ ที่ให้ความสำคัญกับนวัตกรรมและความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) โตโยต้าได้เตรียมแผนการดูแลลูกค้าทุกมิติ ทั้งประกันภัยชั้นหนึ่ง พร้อมแพ็กเกจการดูแลรักษารถ BEV แบบครบวงจร และการช่วยลดต้นทุนผ่านโปรแกรมการเช่าใช้ Kinto โดยเราได้จัดราคาพิเศษสำหรับลูกค้าประเภทองค์กรอีกด้วย

ทั้งนี้ในส่วนของประกันภัย โตโยต้าได้ร่วมมือกับบริษัทประกันภัยชั้นนำ 7แห่ง จัดทำประกันภัยชั้น 1 Toyota CARE PHYD เพื่อมอบความคุ้มครองที่คุ้มค่าสูงสุดให้แก่ลูกค้า และด้วยคุณภาพมาตรฐานจากโตโยต้า ทำให้บริษัทประกันภัยมั่นใจใน TRAVO-e ด้วยเบี้ยประกันที่ถูกที่สุดในตลาดรถยนต์ BEV สำหรับการต่ออายุประกันภัย ยังได้รับส่วนลดสูงสุดถึง 40% และสามารถต่ออายุความคุ้มครองต่อเนื่องถึง 8 ปี นี่คืออีกหนึ่งความตั้งใจของเรา ที่จะทำให้การเป็นเจ้าของรถไฟฟ้าเป็นเรื่องง่ายและคุ้มค่าสำหรับลูกค้าทุกท่าน นอกจากตัวผลิตภัณฑ์แล้ว ลูกค้า BEV ของโตโยต้ายังสามารถมั่นใจได้ในบริการหลังการขายแบบครบวงจร เริ่มจากค่าใช้จ่ายการบำรุงรักษาต่ำกว่า ทีมงานที่ผ่านการฝึกอบรมมาอย่างดี เครือข่ายศูนย์บริการตัวถังและสีที่ครอบคลุมทั่วประเทศ อะไหล่ที่พร้อมใช้งาน และมาตรฐานคุณภาพที่เชื่อถือได้ของโตโยต้า และนี่คือสิ่งยืนยันถึงความพร้อมที่จะส่งมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้าในทุกรูปแบบ”

สำหรับ HILUX REVO นายศุภกร กล่าวขออภัยลูกค้า ที่ยังไม่ได้เปิดตัวรุ่น Z Edition ใหม่ได้ในการเปิดตัวครั้งนี้ ทั้งนี้ HILUX REVO Z Edition ได้รับการปรับปรุงโฉมไปในปี พ.ศ. 2567 อย่างไรก็ตาม สำหรับ HILUX REVO มีการเพิ่มระบบความปลอดภัย ADAS ได้แก่ ระบบแจ้งเตือนก่อนการชนด้านหน้า และระบบช่วยเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่โดยยังคงราคาเดิม และนำเสนอชุดแต่งเวอร์ชันใหม่ของ Charismo ในชื่อ “Drift Package & Rock Package” ทั้งยังมาพร้อมแคมเปญที่น่าดึงดูดใจ โดยเน้นไปที่การเป็นเจ้าของได้ง่ายด้วยข้อเสนอผ่อนต่ำ ฟรีประกันภัยชั้น 1 พร้อมแคมเปญเฉพาะกลุ่มอย่างธุรกิจขนส่ง นอกจากนั้น ยังเข้าร่วมมาตรการค้ำประกัน “กระบะพี่ มีคลังค้ำ” จากรัฐบาล และพิเศษ ลูกค้าโตโยต้าทุกรุ่น สามารถร่วมแคมเปญส่งท้ายปีเก่า อาริกาโตะ รับส่วนลดเมื่อซื้อรถโตโยต้า และลุ้นรางวัลต่อโดยมีมูลค่ารางวัลรวมกว่า 593 ล้านบาท

นายศุภกร กล่าวถึง HILUX CHAMP ที่มีส่วนสำคัญอย่างมากในตลาดรถกระบะ ซึ่งจากการสำรวจ พบว่า ลูกค้า HILUX CHAMP มีการใช้งานเชิงพาณิชย์ สูงถึงประมาณ 80% โดยลูกค้าที่ซื้อส่วนใหญ่เป็นเจ้าของกิจการ ตัดสินใจซื้อรถรุ่นนี้ เพราะเป็นกระบะท้ายเรียบ แบบเปิด 3 ทาง และคุ้มค่าการลงทุน ดังนั้นในไตรมาส 4 แคมเปญพิเศษ จะเน้นเจาะกลุ่มผู้ประกอบการ ในแต่ละรายอาชีพอย่างต่อเนื่อง และ 20% ของกลุ่มลูกค้า HILUX CHAMP เป็นตลาด Private ส่วนใหญ่เป็นลูกค้ารายได้สูง ซื้อรถเพื่อไปตกแต่งตามความชอบ และ Lifestyle ทั้งนี้ ยังได้มีการแนะนำ HILUX CHAMP รุ่นช่วงล้อสั้นพิเศษ ในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการตกแต่งเพิ่มเติม

นอกจากนี้ โตโยต้ายังได้นำรถแต่งต้นแบบจากอู่แต่งพันธมิตร TJM ภายใต้ Concept Outdoor Escape และ SSS กับ Concept Mobile Service มาจัดแสดง พร้อมแนะนำ World of Hilux ที่จัดแสดงไฮลักซ์ในรูปแบบที่หลากหลาย เพื่อให้ลูกค้าเห็นภาพได้ชัดเจนยิ่งขึ้นว่า HILUX ตอบสนองการใช้งานได้อย่างครอบคลุม ทั้งสำหรับไลฟ์สไตล์และการใช้งานเชิงพาณิชย์

นายศุภกร กล่าวย้ำถึงเจตนารมณ์ของโตโยต้าว่า “นี่คือเจตนารมณ์ของเรา — ที่จะจุดประกายตลาดการตกแต่งรถ และสนับสนุนธุรกิจชิ้นส่วนท้องถิ่นอย่างจริงจัง สุดท้ายนี้ ผมขอขอบคุณทุกท่านที่ยังคงให้การสนับสนุน HILUX อย่างต่อเนื่อง โตโยต้าขอยืนยันถึงความมุ่งมั่นที่จะทำทุกอย่างเพื่อสนับสนุนคนไทย ไม่ใช่แค่ลูกค้าของเราเท่านั้น แต่รวมถึงพันธมิตรและผู้ประกอบการท้องถิ่นด้วย จากวันนี้เป็นต้นไป โตโยต้าจะไม่หยุดพัฒนา เพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและความน่าเชื่อถือให้กับคนไทย สมกับที่ได้รับการยอมรับให้เป็น “รถกระบะมหาชน” อย่างแท้จริง”

สัมผัสและทดลองขับได้แล้ววันนี้ ที่ Toyota ALIVE บางนา
โดยสามารถจองทดลองขับได้ที่ https://www.toyota.co.th/alive/testdrive-reservation
และที่โชว์รูมโตโยต้าทั่วประเทศ
พบกับกิจกรรมต่างๆ พร้อมรับข้อเสนอสุดพิเศษ
ในช่วงเดือนพฤศจิกายน – ธันวาคม 2568 ได้ที่
– HILUX TRAVO GREATER TOGETHER FEST ที่จะให้คุณได้สัมผัสกับ HILUX TRAVO ครั้งแรก
ระหว่างวันที่ 21 – 30 พฤศจิกายน 2568 ณ โชว์รูมโตโยต้าทั่วประเทศ
– งานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 42 Thailand International Motor Expo 2025
ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน – 10 ธันวาคม 2568 ณ อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพค เมืองทองธานี
o TOYOTA HILUX TRAVO พร้อมส่งมอบตั้งแต่วันที่ 10 พฤศจิกายน 2568 เป็นต้นไป
o HILUX TRAVO-e พร้อมส่งมอบตั้งแต่วันที่ 10 ธันวาคม 2568 เป็นต้นไป

TOYOTA HILUX TRAVO “ไฮลักซ์ ทราโว่” และ HILUX TRAVO-e “ไฮลักซ์ ทราโว่ อี “GREATER TOGETHER…สู่ความยิ่งใหญ่ไปด้วยกัน”
คอนเซ็ปต์ “Greater Together สู่ความยิ่งใหญ่ไปด้วยกัน” มาจากประวัติศาสตร์อันยาวนานของรถยนต์โตโยต้า ไฮลักซ์ ที่อยู่คู่คนไทยมาถึง 57 ปี ซึ่งรถยนต์โตโยต้า ไฮลักซ์ไม่ใช่แค่ยานพาหนะ แต่เปรียบเสมือนเพื่อนคู่ใจ ตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลายทั้งในชีวิตประจำวันและเชิงพาณิชย์ นอกจากนั้น ด้วยคุณภาพที่เป็นที่ยอมรับในสากล ทำให้รถยนต์โตโยต้า ไฮลักซ์เป็นหนึ่งในสินค้าส่งออกที่สำคัญของประเทศ ซึ่งมีส่วนสำคัญในการสร้างรายได้เข้าสู่เศรษฐกิจของชาติ และสำหรับรถยนต์ โตโยต้า ไฮลักซ์ ทราโว่ ได้ผ่านการออกแบบโดยคนไทย เพื่อคนไทย ตอบโจทย์ทุกการใช้งานของคนไทย ทั้งในชีวิตประจำวัน เพื่อธุรกิจ และการเดินทางในโอกาสพิเศษ

TOYOTA HILUX TRAVO จะมาในรุ่นยกสูงเท่านั้น
มีทั้งหมด 4 Segments (17 รุ่นย่อย) ได้แก่
1.“HILUX TRAVO OVERLAND” รุ่นเรือธง (ขับเคลื่อน 2 ล้อ ยกสูง และ ขับเคลื่อน 4 ล้อ)“GREAT EXPLORER” เพื่อนร่วมเดินทางที่เคียงข้างไปกับคุณ ให้คุณออกไปค้นพบ และสัมผัสประสบการณ์ที่ยิ่งใหญ่ แล้วคุณจะรู้ว่าไม่มีเป้าหมายใดเป็นไปไม่ได้ หากคุณพร้อมลุยไปด้วยกั
2.“HILUX TRAVO PRERUNNER” ขับเคลื่อน 2 ล้อ ยกสูง
3.“HILUX TRAVO 4TREX” ขับเคลื่อน 4 ล้อ
“GREAT URBANER” มาในทั้ง Double Cab และ Smart Cab เน้นการใช้งานส่วนบุคคลและไลฟ์สไตล์ สะดวกสบายไปกับเพื่อนร่วมทางที่พร้อมไปกับคุณ ตอบโจทย์ทั้งการขับขี่ในเมืองที่เน้นความคล่องตัว ด้วยPRERUNNER ขับเคลื่อน 2 ล้อ และพร้อมพาคุณออกไปเติมพลัง ดื่มด่ำธรรมชาติกับรุ่น 4TREX ขับเคลื่อน 4 ล้อ มาร่วมเดินทาง และ ทำให้ทุกวันเป็นวันที่ยิ่งใหญ่ไปด้วยกัน
4.“HILUX TRAVO STANDARD CAB 4TREX” ขับเคลื่อน 4 ล้อ
“GREAT ACHIEVER” กระบะคู่ใจที่พร้อมเคียงข้างทุกความมุ่งมั่น เพื่อสร้างธุรกิจให้เติบโตอย่างมั่นคง มาพร้อมตัวถังแบบมาตรฐานและระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่ให้สมรรถนะครบทั้งความแกร่งพร้อมลุย การบรรทุกที่เหนือชั้น และความคุ้มค่าในทุกเส้นทาง พร้อมพิชิตทุกความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ไปด้วยกัน

และขอแนะนำทางเลือกใหม่
กระบะไฟฟ้าตัวจริง HILUX TRAVO-e “GREAT THINKER” กระบะไฟฟ้าที่ขับเคลื่อนจากแนวคิด MULTI-PATHWAY ถูกคิดเพื่อรองรับความต้องการที่หลากหลาย ผ่านการมองอนาคตอย่างรอบด้าน คิดเพื่อทุกคน คิดเพื่อสร้างความเป็นไปได้ใหม่ๆ และคิดเพื่อการเดินทางสู่อนาคตใหม่ ที่ยิ่งใหญ่ไปด้วยกัน

จุดเด่นHILUX TRAVO OVERLAND
ดีไซน์ภายนอก
ผสานความ “แข็งแกร่ง (Tough)” เข้ากับความ “คล่องตัว (Agile)”
สะท้อนภาพลักษณ์ที่ทรงพลังและคล่องตัว
- ด้านหน้าดีไซน์ใหม่แบบ Cyber Sumo แข็งแกร่ง มั่นคง และทรงพลัง
- ไฟหน้า LED พร้อม Daytime Running Light โฉบเฉี่ยว สะกดทุกสายตา
- สปอร์ตบาร์เสริมความแกร่ง พร้อมไฟท้าย LED ดีไซน์ใหม่
- ล้ออัลลอย ขนาด 18 นิ้ว

ดีไซน์ภายใน
“Robust Simplicity” ดีไซน์เรียบง่ายแต่ทรงพลัง ทุกฟังก์ชันใช้งานได้จริง
- จอแสดงข้อมูลการขับขี่ ขนาด 12.3 นิ้ว แบบดิจิทัล ทันสมัย คมชัด
- พวงมาลัยไฟฟ้า แม่นยำ ควบคุมง่าย
- เครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto
แบบไร้สาย พร้อม Wireless Charger
- ที่วางแก้วน้ำขนาดใหญ่ และที่พักแขนช่วยลดความเหนื่อยล้าขณะขับขี่
เทคโนโลยี “Dynamic Cloud”
ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ การควบคุม การทรงตัว และความนุ่มนวลให้ดียิ่งขึ้น
เพื่อเพิ่มสมรรถนะและความสบายในทุกมิติ
- เพิ่มจุดเชื่อมพื้นตัวถัง เพื่อเสริมความแข็งแรงของห้องโดยสาร ปรับปรุงการทรงตัว
และเพิ่มความนุ่มนวลในการขับขี่
- ติดตั้งยางรองแท่นเครื่องแบบไฮดรอลิก และ ยางรองตัวถังแบบ Shear Type ลดแรงสั่นสะเทือนเข้าสู่ห้องโดยสาร
- เบาะนั่งออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ หนัง Softex นุ่ม นั่งสบาย
- ระบบช่วงล่างแบบนุ่ม หนึบ เกาะถนน
- แกนพวงมาลัยขนาดใหญ่ ช่วยให้ควบคุมได้เฉียบคม ตอบสนองดี และลดแรงสั่นสะเทือน
เครื่องยนต์ GD SUPER POWER 2.8 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 204 แรงม้า
เกียร์ AT แรงบิด 500 นิวตัน-เมตร
เกียร์ MT แรงบิด 420 นิวตัน-เมตร
- มาพร้อมกับเครื่องยนต์ GD SUPER POWER ขนาด 2.8 ลิตร มาพร้อมทั้งพลัง และความประหยัดที่ดีขึ้น
ตอบสนองความต้องการและการใช้งานของลูกค้าที่ต้องการรถกระบะที่เปี่ยมไปด้วยขุมพลัง
- เทคโนโลยีหัวฉีด อัจฉริยะ i-Art ช่วยให้ประหยัดน้ำมัน ควบคุมหัวฉีดอย่างแม่นยำด้วยเซ็นเซอร์คอมพิวเตอร์ทำงานร่วมกับปั๊มคอมมอนเรล แรงดันสูงสุด 250 MPa ให้ละอองน้ำมันละเอียด เผาไหม้หมดจด
- ติดตั้งระบบ Stop & Start ระบบดับเครื่องยนต์อัตโนมัติเมื่อรถจอดนิ่ง เพื่อเพิ่มการประหยัดน้ำมัน
อุปกรณ์อำนวยความสะดวก และฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลาย
- ระบบ Multi-Terrain Select (MTS) ช่วยปรับการขับขี่ให้เหมาะสมกับสภาพพื้นผิวที่หลากหลาย
ทั้งแบบ ดิน ทราย โคลน หิน หรือ หิมะ
- ระบบควบคุมเฟืองท้าย (Auto Limited Slip Differential)
- เบรกมือไฟฟ้า EPB พร้อมระบบหน่วงเบรกอัตโนมัติ Auto Brake Hold
- บันไดข้าง พื้นลายรังผึ้ง Hexagonal Grip เพิ่มการยึดเกาะ และ สะดวกในการก้าวขึ้นลง
- บันไดเหยียบข้างกระบะท้าย ช่วยให้การขึ้นลงสะดวกขึ้น
- ระบบช่วยผ่อนแรงฝาท้ายกระบะ เปิด-ปิดง่าย
ไว้วางใจด้วยระบบความปลอดภัยที่ครบครัน
- เทคโนโลยีความปลอดภัย Toyota Safety Sense*
- All-Speed Dynamic Radar Cruise Control with Curve Speed Reduction and Lane Tracing Assist
ระบบควบคุมและปรับลดความเร็วอัตโนมัติพร้อมช่วยลดความเร็วอัตโนมัติก่อนเข้าโค้ง และช่วยควบคุมรถให้อยู่กลางเลน
- Pre-collision System ระบบความปลอดภัยก่อนการชน
- Lane Departure Alert ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลน พร้อมหน่วงกลับอัตโนมัติ
- Automatic High Beam ระบบความคุมไฟอัตโนมัติ
- ถุงลมเสริมความปลอดภัย SRS 7 ตำแหน่ง*
- ระบบ Blind Spot Monitor และ Rear Cross Traffic Alert
- Parking sensor สัญญาณเตือนกะระยะหน้าและหลัง*มีในรุ่น Overland Plus

จุดเด่นของ HILUX TRAVO PRERUNNER และ 4TREX
(*อ้างอิงจากรุ่น Premium)
- ดีไซน์ภายนอกที่ผสานความ “แข็งแกร่ง (Tough)” เข้ากับความ “คล่องตัว (Agile)”
ด้านหน้าดีไซน์ใหม่แบบ Cyber Sumo แข็งแกร่ง มั่นคง และทรงพลัง
- เครื่องยนต์ GD SUPER POWER 2.8 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 204 แรงม้า
เกียร์ AT แรงบิด 500 นิวตัน-เมตร
เกียร์ MT แรงบิด 420 นิวตัน-เมตร
- เทคโนโลยี “Dynamic Cloud” ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ การควบคุม การทรงตัว และความนุ่มนวลให้ดียิ่งขึ้น เพื่อเพิ่มสมรรถนะและความสบายในทุกมิติ
ดีไซน์ภายใน “Robust Simplicity” และฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลาย
- จอแสดงผลข้อมูลการขับขี่จอสีขนาด 7 นิ้ว แบบดิจิทัล
- เครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto
แบบไร้สาย พร้อม Wireless Charger
- เบาะนั่งวัสดุผ้า Caretex นั่งสบาย ทำความสะอาดง่าย
- เบรกมือไฟฟ้า EPB พร้อมระบบหน่วงเบรกอัตโนมัติ Auto Brake Hold
- ระบบ Push start สตาร์ทเครื่องยนต์ด้วยปลายนิ้ว
- ระบบควบคุมเฟืองท้าย (Auto Limited Slip Differential)
ไว้วางใจด้วยระบบความปลอดภัยที่ครบครัน
- ระบบ Blind Spot Monitor และ Rear Cross Traffic Alert ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา ที่กระจกมองข้าง
พร้อมช่วยเตือนขณะถอยรถ
- ดิสก์เบรก 4 ล้อให้การเบรกตอบสนองรวดเร็วแม่นยำ
- Rear View Camera กล้องมองภาพขณะถอยหลัง
- Parking sensor สัญญาณเตือนกะระยะหน้าและหลัง
- ถุงลมเสริมความปลอดภัย SRS 3 ตำแหน่ง
- ระบบควบคุมเฟืองท้าย (Auto Limited Slip Differential)

จุดเด่นของ TOYOTA HILUX TRAVO STANDARD CAB 4TREX
- ดีไซน์ภายนอกที่ผสานความ “แข็งแกร่ง (Tough)” เข้ากับความ “คล่องตัว (Agile)”
ด้านหน้าดีไซน์ใหม่แบบ Cyber Sumo แข็งแกร่ง มั่นคง และทรงพลัง
- เครื่องยนต์ GD SUPER POWER 2.8 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 204 แรงม้า
เกียร์ AT แรงบิด 500 นิวตัน-เมตร
เกียร์ MT แรงบิด 420 นิวตัน-เมตร
เพิ่มประสิทธิภาพการการยึดเกาะถนน การควบคุมและการทรงตัวดียิ่งขึ้น
- แกนพวงมาลัยขนาดใหญ่ ช่วยให้ควบคุมได้เฉียบคม ตอบสนองดี และ ลดแรงสั่นสะเทือน
- เพิ่มจุดเชื่อมพื้นตัวถัง เสริมความแข็งแรงของห้องโดยสาร เพิ่มประสิทธิภาพการทรงตัว
- แหนบกันสะเทือน ดูดซับแรงสะเทือนและเพิ่มความนุ่มนวลในการขับขี่
- ยางรองแท่นเครื่องแบบไฮดรอลิก ลดแรงสั่นสะเทือนเข้าสู่ห้องโดยสาร
- ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ พร้อม Differential Lock ที่เฟืองท้าย
อุปกรณ์อำนวยความสะดวก และฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลาย
- จอแสดงผลข้อมูลการขับขี่จอสีขนาด 7 นิ้ว แบบดิจิทัล
- เครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว พร้อมระบบเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto
- เบาะนั่งวัสดุผ้า Caretex นั่งสบาย ทำความสะอาดง่าย
ไว้วางใจด้วยระบบความปลอดภัยที่ครบครัน
- ระบบ Blind Spot Monitor และ Rear Cross Traffic Alert ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้างพร้อมช่วยเตือนขณะถอยรถ
- Rear View Camera กล้องมองภาพขณะถอยหลัง
- Parking sensor สัญญาณเตือนกะระยะหน้าและหลัง
- ถุงลมเสริมความปลอดภัย SRS 3 ตำแหน่ง

รุ่น HILUX TRAVO-e
กระบะไฟฟ้ารุ่นแรกของ HILUX ที่ผสมผสานความแข็งแกร่งตามแบบฉบับ Hilux เข้ากับระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า เพื่อสนับสนุนแนวคิด Multi-Pathway สมรรถนะสูง ทนทาน ตอบโจทย์ทุกการใช้งานแบบกระบะตัวจริง โดย HILUX TRAVO-e มาในรุ่น Double Cab 4TREX เท่านั้น
ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า
- ระบบ Dual Motor มอเตอร์คู่ ขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ All-Wheel Drive ให้กำลังรวมสูงสุด 196 แรงม้า (144 กิโลวัตต์)
ชุดมอเตอร์ไฟฟ้าหน้าแรงบิดสูงสุด 205 นิวตันเมตร
ชุดมอเตอร์ไฟฟ้าหลังแรงบิดสูงสุด 269 นิวตันเมตร
- ความจุแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนขนาด 59.2 kWh ระยะทาง 315 กม.
(อ้างอิงจาก Eco Sticker ตามมาตรฐาน NEDC)
รองรับการชาร์จแบบ AC สูงสุดที่ 10 kW และ แบบ DC สูงสุดถึง 125 kW
มั่นใจกับ “DIAMOND GUARD” เทคโนโลยีปกป้องแบตเตอรี่และชุดขับเคลื่อนไฟฟ้า
- ช่วยปกป้องแบตเตอรี่และชุดขับเคลื่อนไฟฟ้าด้วยแผ่นปิดเสริมความปลอดภัย ทั้งด้านหน้าและใต้ท้องรถ
- แบตเตอรี่ยึดกับเฟรมย่อยเป็นรูป Diamond Shape ช่วยลดความเสียหายต่อแบตเตอรี่จากการบิดตัวของเฟรมระหว่างการใช้งาน
- เสริมความปลอดภัยจากการกระแทกรอบทิศทางด้วยโครงสร้างดูดซับแรงกระแทก
เทคโนโลยี “Dynamic Cloud” สำหรับ TRAVO-e ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ
การควบคุม การทรงตัว และความนุ่มนวลให้ดียิ่งขึ้น เพื่อเพิ่มสมรรถนะ
และความสบายในทุกมิติ
- เพิ่มจุดเชื่อมพื้นตัวถัง เพื่อเสริมความแข็งแรงของห้องโดยสาร ปรับปรุงการทรงตัว
และเพิ่มความนุ่มนวลในการขับขี่
- ยางรองตัวถังแบบ Shear Type ลดแรงสั่นสะเทือนเข้าสู่ห้องโดยสาร
- เบาะนั่งออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ หนัง Softex นุ่ม นั่งสบาย
- แกนพวงมาลัยขนาดใหญ่ ช่วยให้ควบคุมได้เฉียบคม ตอบสนองดี และลดแรงสั่นสะเทือน
- ระบบช่วงล่างแบบนุ่ม หนึบ เกาะถนน ด้านหลังแบบ De-Dion ลดน้ำหนักใต้สปริง นุ่มนวล เสริมสมรรถนะการควบคุม
- แบตเตอรี่ติดตั้งบริเวณกึ่งกลางเฟรม ช่วยให้จุดศูนย์ถ่วงต่ำ เพิ่มความมั่นคงและสมดุลของรถ

เลือกเป็นเจ้าของ TOYOTA HILUX TRAVO มาพร้อม 6 สีให้เลือก
- ใหม่! สีน้ำตาล SULFUR METALLIC
- ใหม่! สีเทา ASH
- สีขาวมุก PLATINUM WHITE PEARL MICA
- สีขาว SUPER WHITE II
- สีดำ ATTITUDE BLACK MICA
- สีเงิน SILVER METALLIC
(*สีขาวมุก Platinum White Pearl Mica เพิ่ม 10,000 บาท และ สีขาว SUPER WHITE II ลด 7,000 บาท) และ HILUX TRAVO-e Double Cab 4TREX มาพร้อม 2 สีให้เลือก
- ใหม่! สีเทา ASH
- สีขาวมุก PLATINUM WHITE PEARL MICA
(*สีขาวมุก Platinum White Pearl Mica เพิ่ม 10,000 บาท)

ราคาและแคมเปญ
TOYOTA HILUX TRAVO “ไฮลักซ์ ทราโว่”
และ HILUX TRAVO-e “ไฮลักซ์ ทราโว่ อี”
TOYOTA HILUX TRAVO
มาพร้อมหลากหลายรุ่นย่อย ตอบโจทย์ทุกความต้องการ

ดับเบิ้ลแค็บ (DOUBLE CAB)
- Overland Plus AT
ขับเคลื่อนสี่ล้อ 4TREX ราคา 1,366,000 บาท
ขับเคลื่อนสองล้อ PRERUNNER ราคา 1,176,000 บาท
- Overland AT
ขับเคลื่อนสี่ล้อ 4TREX ราคา 1,292,000 บาท
ขับเคลื่อนสองล้อ PRERUNNER ราคา 1,102,000 บาท
- 2.8 Premium AT
ขับเคลื่อนสองล้อ PRERUNNER ราคา 999,000 บาท
- 2.8 Premium MT
ขับเคลื่อนสี่ล้อ 4TREX ราคา 1,090,000 บาท
ขับเคลื่อนสองล้อ PRERUNNER ราคา 949,000 บาท
- 2.8 Smart AT
ขับเคลื่อนสองล้อ PRERUNNER ราคา 945,000 บาท
- 2.8 Smart MT
ขับเคลื่อนสองล้อ PRERUNNER ราคา 895,000 บาท
รับข้อเสนอ:
รุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ 4TREX ดอกเบี้ยพิเศษ 1.89% หรือ ฟรีประกันภัยชั้น 1 Toyota care PHYD
รุ่นขับเคลื่อนสองล้อ PRERUNNER ดอกเบี้ยพิเศษ 0.99% หรือ ดอกเบี้ย 1.75% พร้อมประกันภัยชั้น 1 Toyota care PHYD
สมาร์ทแค็บ (SMART CAB)
- 2.8 Premium AT
ขับเคลื่อนสี่ล้อ 4TREX ราคา 1,029,000 บาท
ขับเคลื่อนสองล้อ PRERUNNER ราคา 909,000 บาท
- 2.8 Premium MT
ขับเคลื่อนสี่ล้อ 4TREX ราคา 984,000 บาท
ขับเคลื่อนสองล้อ PRERUNNER ราคา 859,000 บาท
- 2.8 Smart AT
ขับเคลื่อนสองล้อ PRERUNNER ราคา 839,000 บาท
- 2.8 Smart MT
ขับเคลื่อนสองล้อ PRERUNNER ราคา 789,000 บาท
รับข้อเสนอ:
รุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ 4TREX ดอกเบี้ยพิเศษ 1.79% หรือ ฟรีประกันภัยชั้น 1 Toyota care PHYD
รุ่นขับเคลื่อนสองล้อ PRERUNNER ดอกเบี้ยพิเศษ 0.99% หรือ ดอกเบี้ย 1.65% พร้อมประกันภัยชั้น 1 Toyota care PHYD
สแตนดาร์ดแค็บ (STANDARD CAB)
- 2.8 AT
ขับเคลื่อนสี่ล้อ 4TREX ราคา 826,000 บาท
- 2.8 MT
ขับเคลื่อนสี่ล้อ 4TREX ราคา 774,000 บาท
รับข้อเสนอ: ดอกเบี้ยพิเศษ 1.69% หรือ ฟรีประกันภัยชั้น 1 Toyota care PHYD
HILUX TRAVO-e
ดับเบิ้ลแค็บ (DOUBLE CAB)
- ขับเคลื่อนสี่ล้อ 4TREX ราคา 1,491,000 บาท










